จากการนอนแคมป์กลางทะเลทราย Wadi Rum เมื่อคืน เราตื่นเช้ามาทานอาหารเช้ากันในเต๊นท์หลัก และเราก็พร้อมที่จะออกเดินทางไปปีนป่ายกันในทะเลทรายสีชมพูนี้แล้วค่ะ นี่คือเอกลักษณ์ของ Wadi Rum เลยที่ไม่ใช่แค่เนินทรายเท่านั้น แต่มีภูเขาหิน สลับซับซ้อนเต็มไปหมด

Wadi Rum แปลว่า Valley of the Moon ค่ะ บางคนก็เรียกว่าหุบเขาจันทรา แต่ที่นี่มักถูกถ่ายภาพยนต์เป็นฉากต่างดาวค่ะ ตั้งแต่ฉากดาวอังคารในเรื่อง The Martian, ดาวเอเลี่ยนใน Prometheus, ดาว Jedha ใน Star Wars และ Rogue One อ้อ แล้วก็เป็นฉากทะเลทรายที่ไปเจอจินนี่ในเรื่อง Aladdin ภาคไลฟ์แอคชั่นด้วยนะคะ

หากใครยังไม่ได้อ่านการเดินทางตอนที่แล้ว สามารถกลับไปอ่านได้ คลิ๊กที่นี่

---

Wadi Rum Expedition

การเข้าไปใน Wadi Rum วันนี้ เรายังเดินทางกันอย่างส่วนตัว ด้วยรถจิ๊บแบบในรูปด้านล่างนี้เลยค่ะ ตอนนี้เค้าจอดให้เราปีนขึ้น Dune นี้มาเพื่อชมวิว Dune ตรงนี้เป็นทรายละเอียดมากๆ ไม่ร้อนนะคะ แต่เหนื่อย เพราะเวลาเราปีนเนินทรายอ่ะ เราเหยียบลงไป ขาเราจะจมไปถึงแข้งเลย เหมือนอยู่ที่เดิมเลย ต้องใช้แรงเยอะอยู่ค่ะ

ภายในทะเลทราย ก็จะมีภาพเขียนผนังโบราณด้วย

เค้าก็จะแวะไปเรื่อยๆ นะคะ อย่างตรงนี้ มีแพะภูเขากำลังปีนป่ายอยู่เต็มไปหมด เราเลยปีนขึ้นไปบ้าง ความสูงที่ปีนขึ้นมาก็คือ เดินมาจากตรงที่รถจอดอยู่ค่ะ

แพะภูเขาเจ๋งมาก ขนาดหน้าหินที่ดูเกือบจะตั้งฉากกับพื้น ต้องก็ปีนกันขึ้นไปได้

มาที่นี่ต้องปีนกันเยอะนิดนึงนะคะ ไม่แนะนำให้ใส่กระโปรงยาวมานะ 5555 อย่างตรงนี้ก็ไม่มีทางเดินขึ้นนะคะ ต้องปีนหินขึ้นมา สูงมากๆ ขาสั่นอยู่

คุณแม่ไม่ไหว ขอรออยู่ด้านล่าง ส่วนจุดเริ่มต้นของเราคือตรงที่รถจอดค่ะ

ภายในทะเลทราย นอกจากทัศนียภาพสวยๆ หลักๆ ก็จะพาไปดู Sand Dune, หินสวยๆ แล้วก็ โอเอซิสค่ะ มีแหล่งน้ำในซอกหินอะไรแบบนี้ด้วยแหล่ะ

เวลาผ่านไปไวมาก ประมาณ 11 โมง เค้าก็พาเรามาเริ่มขี่อูฐค่ะ

เราโชคดีที่แดดร่ม เลยกลายเป็นประสบการณ์ขี่อูฐที่ฟินที่สุดในชีวิต เพราะอากาศเย็น ลมโชย อูฐเดินช้า ไม่เจ็บตูดเหมือนขี่ม้า แล้วนั่งอูฐอ่ะ เราจะรู้สึกสูงงงง เหมือนลอยอยู่ในวิวทะเลทราย Wadi Rum เป็นประสบการณ์ที่อยากให้ทุกคนมาสัมผัสซักครั้งในชีวิตจริงๆ ค่ะ

หลังจากขี่อูฐจบ เค้าก็จะพามาทานอาหารที่บ้านในหมู่บ้านข้างทะเลทรายค่ะ มื้อเที่ยงของเราก็นั่งพื้นทาน

---

Dead Sea ทะเลสาบที่เค็มที่สุดในโลกจนลอยตัวได้!

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งพาร์ทที่ตื่นเต้นสุดๆ ในจอร์แดนค่ะ

เราเรียนมาตั้งแต่เด็กๆ ว่า มีทะเลสาบแห่งนึงที่เค็มที่สุดในโลก จนไม่มีสิ่งมีชีวิตอยู่ได้เลย ทำให้ต้องเรียกทะเลสาบแห่งนั้นว่า “Dead Sea” (เดดซี) ที่แปลตรงตัวว่า ทะเลสาบแห่งความตาย

และสิ่งที่ทำให้เราจำที่นี่ได้อย่างแม่นยำก็คือตอนที่ครูสอนว่า “มันเป็นทะเลสาบที่ทุกอย่างจะไม่จม!”

ทะเลสาบ เดดซี นั้นมีอาณาเขตตั้งอยู่ใน 2 ประเทศ คือ จอร์แดน และ อิสราเอล อย่างเราอยู่ฝั่งจอร์แดน ถ้ามองไปฝั่งตรงข้าม ก็จะเป็น เดดซี ฝั่งอิสราเอลค่ะ

จากที่ทะเลทราย เราใช้เวลาเดินทางราวๆ 4 ชั่วโมง ซึ่งก็มาถึงที่นี่เกือบเย็นค่ะ โปรแกรมของวันนี้คือ พักผ่อนอยู่ที่โรงแรมไปเลย เพราะโรงแรมแถวนี้ มีหาดลงเดดซีอยู่แล้ว และก็มีโคลนให้พอกด้วยค่ะ

ตรงนี้เป็นส่วนที่เกลือมันตกผลึกค่ะ สวยไปอีกแบบ จริงๆ ปีนลงไปได้นะคะ แต่ต้องใช้เวลานิดนึง เราเลยอดค่ะ

มาถึงโรงแรมแล้วค่ะ ครั้งนี้เราพักกันที่ Holiday Inn Dead Sea อาคารโรงแรมเป็นสีทรายๆ ตัดกับน้ำและท้องฟ้าสวยเชียวค่ะ จริงๆ แถวนี้ โรงแรมเป็นสไตล์นี้หลายโรงแรมเลย อันที่เราเลือกก็ถือว่าราคาไม่สูงค่ะ แต่มีสระน้ำใหญ่อลังการ ยาวทั่วรีสอร์ทเลยค่ะ ห้องสะอาด ถูกอย่างยังดูมีการดูแลรักษาดีค่ะ แฮปปี้นะ

ทางไปจอง >> Holiday Inn Dead Sea

และแล้ว เวลาที่รอคอยก็มาถึง…

เราจะลอยได้มั้ย???…..

 

……ได้ค่ะ มันลอยได้จริงๆ ลอยแบบ เหมือนนอนอยู่บน แพยางอ่ะ แต่ไม่ต้องมีแพยางเลย แค่ระวังคว่ำ คือถึงจะคว่ำก็ลอยแหล่ะ แต่น้ำมันขมมากกกกก แบบเค็มเกินไปจนขม

ขอทำท่าฮิต นอนอ่านหนังสือพิมพ์ค่ะ!

เค้าจะมีบอกแนะนำเลยนะคะว่า ควรแช่ไม่เกินกี่นาที แล้วก็จะมีบ่อโคลน ที่เราไปเอาโคลนมาพอกได้เลย อันนี้ยอมรับว่า พอกแล้ว ผิวนุ่ม เนียนจริง แต่ก็ไม่ได้มาพอกทุกวันอ่ะ เลยตอบไม่ได้ ว่าระยะยาวเป็นยังไง!

---

ที่พักในเดดซี

ส่วน โรงแรมสวยๆ บริเวณ Dead Sea ก็มีเพียบเลยนะคะ นัทรวบรวมมาให้ดูคร่าวๆ เป็นแนวทาง

Kempinski Hotel Ishtar Dead Sea

ทางไปจอง >> คลิ๊กที่นี่

Crowne Plaza Jordan Dead Sea Resort & Spa

ทางไปจอง >> คลิ๊กที่นี่

Hilton Dead Sea Resort & Spa

ทางไปจอง >> คลิ๊กที่นี่

Mövenpick Resort & Spa Dead Sea

ทางไปจอง >> คลิ๊กที่นี่

Dead Sea Marriott Resort & Spa

ทางไปจอง >> คลิ๊กที่นี่

---

ตอนถัดไป เราจะไปแช่น้ำกันที่บ่อน้ำพุร้อนใกล้ๆ เดดซี ชื่อว่า Ma’in Hot Spring ค่ะ แล้วก็จะไปเที่ยวเมืองโรมันโบราณอย่าง Jerash ก่อนจะเดินทางกลับค่ะ ไปติดตามต่อกันได้ที่

สามารถติดตามการเดินทางในจอร์แดนของเราทั้งทริป ได้ที่

[เที่ยว จอร์แดน ด้วยตัวเอง Ep. 1] รู้จักจอร์แดน แผนการเดินทาง และ ค่าใช้จ่าย
[เที่ยว จอร์แดน ด้วยตัวเอง Ep. 2] จาก King’s Highway สู่ Petra บนเส้นทางเก่าแก่นับพันปี
[เที่ยวจอร์แดน ด้วยตัวเอง Ep. 3] นครสีกุหลาบ ‘เพตรา’ – นอนแคมป์วิวดาวอังคาร
[เที่ยวจอร์แดน ด้วยตัวเอง Ep.4] ขี่อูฐกลางทะเลทรายสีชมพู ลอยตัวในเดดซี แช่น้ำแร่ Ma’in
[เที่ยวจอร์แดน ด้วยตัวเอง Ep. 5] แช่น้ำพุร้อน เที่ยวกรุงอัมมาน เยือนนครโรมันโบราณ Jerash

---

สำหรับใครที่หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกอยู่ก็ไปเทียบราคาได้ที่ Skyscanner.com นะคะ คลิ๊กที่นี่ได้เลย!!!

หากชอบรีวิว ช่วยกดไลค์เพจเป็นกำลังใจให้หน่อยนะคะ หรือไปตามไอจี @eatchillwander อัพเดทกันแบบเรียลไทม์ขอบคุณมากๆ ค่า

---

ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com