[เที่ยว French Riviera ตอนที่ 2] หลงเมืองริมชายฝั่งฝรั่งเศสใต้ นีซ (Nice) และ เอซ (Eze)

จากความเดิมตอนที่แล้วเราเดินทางเข้าสู่ภูมิภาคชายฝั่งทางใต้ของฝรั่งเศส หรือที่เรียกกันว่า Côte d’Azur หรือ French Riviera โดยเราเริ่มเที่ยวที่ ประเทศโมนาโก ประเทศที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสองของโลกกันก่อน ก่อนจะเข้าถึงเมืองหลัก เมืองใหญ่แห่งภูมิภาคนี้อย่างเมือง นีซ (Nice) อีกหนึ่งเมืองสำคัญของฝรั่งเศสที่ทุกคนควรมาเยือนซักครั้ง

และก่อนจะเข้าสู่เมือง Nice นั้น เราต้องผ่านเมืองน่ารักๆ อย่างเมือง Eze ด้วยค่ะ ตามเรามาเที่ยวทั้งสองเมืองนี้ในตอนนี้กันเลยค่ะ


ข้อมูลเบื้องต้น

– Nice อ่านว่า นีซ เป็นเมืองใหญ่อันดับ 5 ของประเทศฝรั่งเศส และเป็นเมืองที่สำคัญทางตอนใต้ค่ะ

– เมืองนีซ มีสนามบินใหญ่เป็นของตัวเอง และการขนส่งสาธารณะไปยังเมืองข้างๆ ก็ถือว่าสะดวกค่ะ มีทั้งรถไฟ รถบัส หรือจะขับรถเที่ยวก็ง่ายมากๆ เพราะแต่ละเมืองไม่ไกลกันเลยค่ะ

– TGV มาจากปารีสจะไกลนิดนึง 6 ชม.เลย แนะนำให้นั่งเครื่องบินมาลงก่อน แล้วค่อยเที่ยวแถวๆ นี้เอาค่ะ

– แผนการเดินทางในครั้งนี้ นัทขับรถมาจากอิตาลี อยู่แถบนี้ประมาณ 4 วันค่ะ สั้นไปนิดนึง มีไปประเทศโมนาโก, นีซ, คานส์​ แล้วก็เมืองเล็กๆ อย่าง Eze และ Antibes

– ในเมืองนีซเอง เที่ยวได้หลายแบบ หลายสไตล์นะคะ บางคนจะไม่ชอบนีซเพราะเป็นเมืองใหญ่ ซึ่งก็ใหญ่จริงๆ มีหลายโซน ไม่ใช่หมู่บ้านเล็กๆ ที่เดินได้ทั่ว อันนี้ก็ต้องแล้วแต่คนชอบเลยค่ะ ซึ่งส่วนตัวนัทเอง ก็ชอบเมืองเล็กมากกว่า นีซเลยน่าจะเป็นที่สำหรับไปพิพิธภัณฑ์และชมงานศิลปะหรือสิ่งปลูกสร้างใหญ่ๆ มากกว่าค่ะ

– ในภูมิภาคนี้ ยังมีเมืองสวยๆ อีกเยอะเลยค่ะ เริ่มตั้งแต่เมืองใกล้ชายแดนอิตาลีอย่าง Menton ไปจนถึงเมือง Toulon โดยมีเมืองรีสอร์ตสุดหรูที่ยังคงเป็นเมืองพักร้อนสำหรับเซเลบริตี้ ได้แก่ Saint-Jean-Cap-Ferrat, Villefranche-sur-Mer, Frejus, Sainte-Raphael และ Saint-Tropez

– สำหรับการเดินทางในประเทศโมนาโก ย้อนไปอ่านความเดิมตอนที่แล้วได้นะคะ คลิ๊กที่นี่


เดินหลงชมวิวทะเลในเมือง Èze

Èze เป็นหมู่บ้านเล็กๆ บนป้อมปราการ ที่อยู่ระหว่างประเทศโมนาโก และ เมืองนีซ ค่ะ เป็นเมืองบนชายฝั่งแต่ไม่มีทางลงสู่ทะเล เนื่องจากอยู่บนผาสูง อาคารบ้านเรือนก็จะลดหลั่นกันมาตามแนวภูเขา เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์และเส้นทางจะซับซ้อนเหมือนเขาวงกตเลยค่ะ ระหว่างทางเราจะเห็นวิวทะเลมุมสูงอยู่ตลอด

และนั่นคือเสน่ห์ของเมืองแบบนี้ ส่วนใหญ่นัทจะเดินหลงไปเรื่อยๆ แบบไม่ใช้แผนที่เลย ค่อยๆ เดิน ชม แล้วก็สัมผัสบรรยากาศรอบๆ ค่ะ

สำหรับเมืองนี้ รถเข้าไม่ได้นะคะ ยังไงก็ต้องเดิน จะมีที่จอดรถอยู่ทางเข้าเมืองเก่า แล้วต้องเดินเองค่ะ เมืองจะมีความวกวนหน่อยๆ ส่วนใครที่มาโดยรถบัส ก็จะจอดทางเข้าเมืองเช่นกันค่ะ

ภายในเมืองเต็มไปด้วยร้านค้า คาเฟ่ แกลเลอรี่ เต็มไปหมดเลยค่ะ ไม่ได้เน้นแลนด์มาร์กเป็นจุดๆ เท่าไหร่

ที่แรกที่เรามาคือ Jardin Botanique d’Eze ที่นี่เป็นสวนที่เต็มไปด้วยแคคตัสและพืชอวบน้ำ ซึ่งนัทคิดว่าสิ่งที่น่าสนใจตรงนี้ น่าจะเป็นวิวที่เราจะได้เห็นจากมุมนี้ ซึ่งอยู่สูงกว่าเมืองขึ้นไปค่ะ เดินเพลินๆ ค่อนข้างผ่อนคลายเลย แต่ชันหน่อยนะคะ

จากนั้นก็เดินเลาะไปเรื่อยๆ ค่ะ เป็นสไตล์นี้ทั้งเมืองเลย

นัทแนะนำให้หาร้านนั่งทานกาแฟดูวิวนะคะ อย่างนัทมาที่โรงแรม Chevre d’Or วิวสวยมากกกก

ตรงใกล้ๆ ที่จอดรถจะมี โรงงานน้ำหอมอยู่สองแห่ง ซึ่งสามารถเข้าไปชมได้ฟรีค่ะ

ที่นี่ นัทใช้เวลาประมาณ 3-4 ชม. แต่ไม่ได้มีทานอาหารอะไรนะคะ จากนั้นก็ขับกลับไปนีซค่ะ ระหว่างทางจะมีจุดชมวิวด้วยค่ะ


A nice day in NICE

ขับจาก Eze ประมาณ 20 นาที เราก็จะเข้าสู่เมืองนีซค่ะ เมืองนีซเป็นเมืองใหญ่มาก และมีจุดน่าสนใจที่หลากหลายสไตล์ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นของกิน ศิลปะ ทะเล ตลาด ดังนั้น การจัดทริปก็จะแล้วแต่สไตล์แต่ละคนเลย

ส่วนตัวรู้สึกว่า ถ้าอยากเที่ยวนีซให้ทั่วจริงๆ ต้องใช้เวลาหลายๆ วันค่ะ แต่ส่วนตัวเราชอบเมืองเล็กๆ เดินได้ทั่ว สโลว์ไลฟ์มากกว่า เลยจะเลี่ยงเมืองใหญ่แบบนีซไป ซึ่งแล้วแต่คนเลยค่ะ

สถานที่เด่นๆ ของ นีซ ที่เชื่อว่าทุกคนต้องแวะมาเยือนได้แก่ Promenade des Anglais ถนนเลียบหาดที่มีความยาวถึง 7 กม. จริงๆ ตอนขับรถเลียบเส้นนี้รู้สึกมีความไมอามี่อยู่นะคะ ฝั่งนึงเป็นทะเล ส่วนอีกฝั่งเต็มไปด้วยร้านอาหารกับบาร์ค่ะ ทะเลที่นี่เล่นได้ช่วงหน้าร้อน แต่หาดเป็นหาดหิน นัทว่าเดินลำบากมาก เป็นหาดที่ไม่สนุกเลย

ส่วนภาพนี้ต้องขึ้นไปชมมาจาก Castle Hills ซึ่งต้องเอารถไปจอดแล้วเดินไต่ขึ้นไปค่ะ เป็นบรรยากาศร่มรื่นๆ ต้นไม้เยอะๆ

จากพรอมเมอนาดริมทะเล เข้ามานิดเดียว ก็จะผ่านส่วนที่เป็นเมืองเก่าของนีซ หรือที่เรียกว่า Vieux-Nice ซึ่งก็จะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร มีโบถส์ใหญ่อย่าง Cathedrale Sainte-Reparate de Nice อยู่ เดินๆ ไปแนะนำให้ลองซื้อไอศครีมทานด้วยนะคะ

จากนั้นเราก็จะข้ามแนวสวนมาที่ Place Massena จัตุรัสกลางเมืองซึ่งเชื่อว่าคงไม่คลาดสายตาไปได้ เพราะทั้งพื้นและสีสันของตึกตรงนี้คือเตะตาสุดๆ

ตรงสุดถนนและจัตุรัส Place Massena จะเป็นที่ตั้งของ Fontaine du Soleil ซึ่งตอนที่เปิดตัวรูปปั้นครั้งแรก คนท้องถิ่นจะเมคฟันเรื่องม้าสี่ตัวที่อยู่บนศีรษะของอะพอลโล่ เพราะตามเรื่องราวแล้ว ม้าไม่ควรไปอยู่บนศีรษะแบบนั้นค่ะ

แนวสวนยาวที่แบ่งเขตเมืองเก่าและเมืองใหม่

หากพูดถึงของกินแล้ว นีซไม่เป็นสองรองใคร เพราะมีอาหารทะเลสดๆ มีไวน์โรเซ่จากโพรวองซ์ แถมอาหารที่มีชื่อชาวเมืองนีซ ไปทั่วโลก ก็คือ Salade Nicoise หรือ นิซัวส์ สลัด ที่เราจะเห็นว่าใส่ทูน่า โอลีฟ แองโชวี่ มีความสื่น ก็เกิดมาจากที่นี่นั่นเองค่ะ

หากใครมานีซด้วยรถไฟ เดินข้ามสถานีรถไฟมานิดนึง จะเป็นที่ตั้งของ Cathedrale Saint-Nicholas de Nice ซึ่งเป็นโบถส์แบบรัสเซียออร์โธดอกซ์ที่ค่อนข้างแปลกตาในฝรั่งเศสเลยค่ะ

จากนั้นเราก็ขับรถมาย่าน Cimiez บ้าง โดยจุดหมายปลายทางของเราคือ พิพิธภัณฑ์อองรี มาตีส หรือ Musee Matisse ศิลปินในมูฟเม้นท์แบบ Fauvism ในยุคโมเดิร์น โดยในยุคก่อนหน้านี้ ศิลปินจะวาดภาพแบบเหมื๊อนเหมือน หรือเป็นโครงสร้างแบบ Academic แต่มาตีสมาถึงคือ งานสีสันสดใส ไม่แพ้ความสดใสของฝรั่งเศสใต้เลยค่ะ มีการลดทอน วาดลวดลายอย่างงานศิลปะอิสลาม เข้าไปในงานอีกด้วย ซึ่งที่นี่ เล่าเรื่องได้ดีเลยค่ะ

นอกจาก Musee Matisse แล้ว นีซยังมี Museum of Modern and Contemporary Art และ Musee Marc Chagall ที่น่าสนใจเช่นกันค่ะ

ช่วงเย็น เรากลับมาดูพระอาทิตย์ตกที่ Promenade des Anglais กันอีกรอบ

แอบเดินผ่าน Marche Aux Fleurs Cours Saleya ตลาดดอกไม้ชื่อดังของเมืองด้วยค่ะ

จากที่นี่ เราก็จะไปกันต่อที่เมืองคานส์ และ เมืองเล็กๆ ที่อยู่ข้างเคียงอย่าง Antibes ตามมาอ่านต่อได้เลยนะคะ


อ่านตอนถัดไป เมืองคานส์ – Antibes

กลับไปอ่านความเดิมตอนที่แล้ว Monaco

สำหรับใครที่หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกอยู่ก็ไปเทียบราคาได้ที่ Skyscanner.com นะคะ คลิ๊กที่นี่ได้เลย!!!

หากชอบรีวิว อย่าลืมกดไลค์เพจ และ ติดตามไอจี @eatchillwander ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า

ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com

error: