เที่ยว มอนเตเนโกร ด้วยตัวเอง : ขับรถเลียบชายฝั่ง Bay of Kotor อ่าววิวสวย เมืองตากอากาศแห่งยุโรปตะวันออก

แม้ว่า ประเทศมอนเตเนโกร (Montenegro) จะเป็นประเทศที่เพิ่งได้รับเอกราชและถูกตั้งให้เป็นประเทศเมื่อแค่ปี 2007 ที่ผ่านมา แต่ดินแดนแถบนี้นั้น มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน มีธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งชายฝั่งแบบอ่าวที่แสนจะเป็นเอกลักษณ์ ทะเลสาบและขุนเขามากมาย เป็นที่ตั้งของแคนยอนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป หมู่บ้านชายฝั่งอาเดรียติกที่วิวสวยเหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างยิ่ง

การมาเที่ยวมอนเตเนโกรนั้น มาได้จากหลายสนามบินในประเทศมอนเตเนโกรเอง ส่วนพวกเราขับรถต่อมาจากเมือง ดูโบรฟนิค ประเทศโครเอเชีย ซึ่งจากดูโบรฟนิคถึงด่านชายแดนมอนเตเนโกร ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น จากนั้นเราก็ขับลัดเลาะเมืองริมฝั่งของมอนเตเนโกรไปเรื่อยๆ

สำหรับนัทต้องบอกเลยว่า พอเข้ามาเขตมอนเตเนโกรแล้ว สภาพถนนจะสู้ที่โครเอเชียไม่ได้ แต่รูทที่ขับเลียบอ่าว Kotor Bay นั้น ถนนดี เป็นหนึ่งในการขับรถเที่ยวที่รู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกสงบจิตสงบใจ รู้สึกว่าวิวตรงหน้ามันสวยแล้วสวยแบบ peaceful อ่ะค่ะทุกคน เป็นการพักผ่อนที่ดีมากๆ เลย

นัทใช้เวลาเพียง 2 วัน 2 คืน ขับมาถึงแค่ Kotor แล้วขับกลับ เมืองที่ได้ไปจะได้แก่ Herceg Novi, Perast, Kotor ค่ะ แต่จริงๆ นอกจากในรีวิวนี้ มอนเตเนโกร ยังมีสถานที่น่าเที่ยวอีกหลายแห่ง เช่น เมือง Budva เมืองชายหาด, Sveti Stefan เมืองในเกาะเล็กๆ ที่ยื่นไปกลางทะเล อย่างกับภาพวาดเลยค่ะ (จริงๆ ขับรถไปอีกนิดเดียวเอง แต่ Kotor มันชิลล์มาก จนพวกเรารู้สึกว่า เออ ขอพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์ละกัน มันต้องค่อยๆ ดื่มด่ำจริงๆ เลยตัดใจไม่ไปต่อค่ะ)

ส่วนที่เที่ยวที่ไม่ได้ใกล้ทะเลก็จะมีทั้ง  Ostrog Monastery อันนี้อยากให้ทุกคนไปกูเกิ้ลดูนะคะ มันอลังการมากๆๆๆ นอกจากนี้ก็ยังมีแคนยอนที่บอกว่าใหญ่ที่สุดในยุโรปอย่าง Tara Canyon, มีทะเลสาบ Skadar แล้วก็ Podgorica เมืองหลวงที่ไม่ได้ฮิตเท่าเมืองท่องเที่ยวริมฝั่งค่ะ


ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเที่ยวมอนเตเนโกร 

– การเดินทาง : จากไทยยังไม่มีบินตรง แต่เมืองหลวงอย่าง Podgorica นั้นมีไฟลท์ทั้งจากออสเตรีย เยอรมันนี ตุรกี ซึ่งเราก็บินตรงจากไทยมาต่อเครื่องได้ค่ะ หรือจะลองหาไฟลท์มาลง Tivat ก็ได้นะคะ จะอยู่บริเวณ Kotor Bay เลย แต่ถ้าเดินทางแบบนัทก็คือจะมาลงโครเอเชียก่อน มีหลายไฟลท์เช่นกันเลย แล้วขับรถมา หากใครไม่สะดวกขับรถจะมีทัวร์แบบเดย์ทริปมาเยอะเลยค่ะ

– วีซ่า : มอนเตเนโกรไม่ใช่ประเทศในเขตแชงเก้น แต่อนุญาตให้ผู้ถือวีซ่าแชงเก้นเข้าได้ค่ะ โดยที่วีซ่าแชงเก้นที่ถือต้องเป็นแบบ Multiple Entry และเคยใช้เข้าประเทศในเขตแชงเก้นมาแล้วครั้งนึง (เช่น สมมติเราบินมาลงเยอรมัน สแตมป์เยอรมันแล้ว วันต่อมาก็บินเข้ามอนเตเนโกรแบบนี้ได้ค่ะ)

– ค่าเงิน : EURO // มอนเตเนโกรไม่ได้อยู่ในสหภาพยุโรป (EU) แต่ใช้ค่าเงินยูโรค่ะ ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกมากนะคะ มีแค่ประเทศมอนเตเนโกรกับโคโซโวที่ทำแบบนี้ หากใครอยากรู้รายละเอียดทางเศรษฐศาสตร์การเมืองตรงนี้เพิ่มเติมก็ลองไปหาอ่านกันดูนะคะ

– ฤดูน่าเที่ยว : ตรงนี้เหมือนโครเอเชียค่ะ ฤดูร้อนร้อนมาก แต่ฮิตสุด ทุกอย่างขึ้นราคา 2-3 เท่า ส่วนนักท่องเที่ยวไทยไม่ได้โหยหาแสงแดดเหมือนชาวยุโรป ก็แนะนำให้มาช่วง ใบไม้ผลิ (April-May) หรือ ใบไม้ร่วง (September-October) แถวๆ นี้ค่ะ นัทมาช่วงตุลาคม น้ำเย็นจนลงไม่ได้แล้วค่ะ ก็จะพลาดกิจกรรมบางอย่างเช่นเก็บหอยนางรมค่ะ

– ภาษา : มีภาษา Montenegrin รากเดียวกับเซิร์บและโครแอทค่ะ แต่คนพูดภาษาอังกฤษได้ดีเลยค่ะ

– ซิมการ์ด : Sim2Fly ของ AIS เป็นอันเดียวที่ใช้ได้นะคะ ของทรูไม่รองรับค่ะ แล้วก็ถ้าซื้อซิมมาจากประเทศในสหภาพยุโรป จะใช้ที่นี่ไม่ได้ค่ะ แต่ซิมที่นี่ก็หาซื้อไม่ยาก Wifi มีตามร้านอาหาร คาเฟ่ ทั่วไปค่ะ

– บัตรเครดิตและ ATM : ตามร้านค้าก็รับบัตรเครดิตปกติค่ะ แต่อย่างค่าขึ้นป้อมที่ Kotor หรือ พวกรับจ้างเรือที่ Perast แบบนี้จะรับแต่เงินสดค่ะ ตามหมู่บ้านจะมี ATM อยู่ นัทลองกดก็ไม่มีปัญหาอะไรค่า ใช้ค่าเงินยูโรเลย

– ความปลอดภัย : ประสบการณ์ที่นัทเจอบนเส้นทางนี้คือ ปลอดภัยมากๆ เป็นหมู่บ้านชิลล์ๆ คนใจดีมากๆ ทุกคนที่นัทเจอใจดีหมดเลย ตั้งแต่เจ้าของอพาร์ทเม้นท์คืนแรก และ คืนที่สอง ลุงฟาร์มหอยนางรม พนักงานร้านอาหารที่เจอ  ซุปเปอร์มาร์เก็ต เราไปเลือกชีส เค้าใจเย็นมาก น่ารัก เข้าไปถามทางในร้านนี่ตอบดีทุกคนเลยค่ะ และอพาร์ทเม้นท์ที่สองคือได้ใจเรามากๆ เพราะไปลืม AirPods ไว้แล้วเค้าเลยส่งไปรษณีย์ตามมาให้ที่ปารีส ซึ่งค่าส่งอ่ะ ประมาณ 30% ของค่าที่พักแล้วนะคะ นัทพยายามจะจ่ายเงินเค้าคืน แต่เค้าก็ไม่รู้จะเก็บเงินเรายังไง เค้าเลยบอกว่า ถือเป็นของขวัญจากมอนเตเนโกรละกัน


Herceg Novi

จากเมืองดูโบรฟนิค ขับรถเพียง 50 กม. ก็จะมาถึงเมืองแรกที่เราแวะทานอาหารเที่ยงค่ะ เมืองนี้ค่อนข้างคึกครื้นและทัวริสตี้พอสมควร เป็นเมืองอยู่ริมผา มีส่วนของเมืองเก่ายุคกลางที่ผ่านประวัติศาสตร์ทั้งสาธารณะรัฐเวนิสและจักวรรดิออตโตมันเลยค่ะ

เส้นทางจากโครเอเชียมามอนเตเนโกรจะประมาณนี้ค่ะ ด่านตม. เป็นด่านเหมือนตู้เก็บเงินทางด่วน ไม่ต้องลงจากรถค่ะ มีด่านสแตมป์ออก ศุลกากร แล้วก็สแตมป์เข้าค่ะ ใช้เวลาเร็วมากๆ เค้าแค่เอาพาสพอร์ทไปสแกนอ่ะค่ะ

มาถึง Herceg Novi ภายในเมืองเก่าจะค่อนข้างชันนะคะ มีจุดน่าสนใจเป็นป้อมปราการเก่า และ พวกโบถส์ต่างๆ ค่ะ แต่พวกเราแค่แวะทานอาหาร ไปทานที่ร้าน Gradska Kafana จะมีที่จอดรถสาธารณะแบบเก็บเงินมีคนเฝ้าก่อนถึงร้านนะคะ อาหารพอใช้ได้ แต่วิวสวยมากๆ บรรยากาศดีค่ะ


Bay of Kotor 

จากนั้นเราจะเริ่มเข้าสู่เส้นทางเลาะชายฝั่งอ่าว Kotor แล้วค่ะ จะบอกว่า อ่าว Kotor นี่ดูพิเศษมากๆ เพราะเป็นอ่าวที่มีช่องแคบออกสู่ทะเล แต่ตัวอ่าวเองเกือบจะปิดเป็นเลคแล้วค่ะ นัทว่าเขียนแล้วไม่เห็นภาพ ลองดูภาพจากกูเกิ้ลแมพด้านล่างนี้นะคะ คือจะเห็นว่ามีจุดที่เทือกเขาเกือบจะบรรจบกัน แต่ไม่จบ ก็คือเป็นทางออกไปยังทะเลอาเดรียติกได้เลยค่ะ

ตรงช่องแคบเล็กๆ ตรงนั้น จริงๆ มีบริการเรือข้ามฟากนะคะ ถ้าเอารถขึ้นเรือข้ามฟาก 10 นาทีก็ถึงอีกฝั่งแล้ว แต่ถ้าขับรถเลาะเข้าไปในอ่าว ก็จะประมาณ 2 ชม.จบรอบค่ะ ระยะทางไม่มาก แต่ขับเร็วมากไม่ได้ค่ะ

เมืองน่าเที่ยวตรงนี้มีหลายแห่ง หลักๆ คือ Perast กับ Kotor ค่ะ ส่วนพวกเราไปพักที่หมู่บ้านที่อยู่ระหว่างทาง ตรงนี้ มันขับแป้ปเดียวก็เลยไปอีกหมู่บ้านแล้ว เราเลือกที่มีครัว มีวัตถุดิบที่ติดรถมาจากวันก่อนๆ แล้วก็ซื้อใหม่ มาทำเรื่อยๆ

วิวบนเส้นทางนี้ค่ะ ขับเพลินมากๆ

ตลอดทางจะมีทั้งร้านอาหารริมน้ำ มีบริการนำเที่ยวด้วยเรือ บางจุดก็สามารถลงเล่นน้ำได้ (ในช่วงฤดูร้อน) แต่กิจกรรมไฮไลท์ที่เรามาทำคือชมฟาร์มหอยนางรมค่ะ

ภาพนี้ นัทหาทำเองค่ะ กะว่าแบบ น้ำเย็นไม่เป็นไร สรุปเย็นจริง เย็นเหมือนแช่น้ำแข็ง แค่เอาเท้าลงไปก็ชาแล้วค่ะ อด

ระเบียงที่พัก ตอนกลางคืนก็ทำอาหารทานกันตรงนี้เลยค่ะ เย็นสบายมากๆ ตื่นมาเห็นวิวแบบนี้ สดชื่นมากเลย

ที่พักตรงนี้คือ J & P Apartments >> ทางไปจอง คลิ๊กที่นี่ เป็นอพาร์ทเม้นท์ราคาคืนละพันบาท นอนได้ 3-4 คน มีครัวเต็ม มีระเบียง อยู่ชั้นหนึ่งของอาคาร แต่อาคารอยู่บนเนิน เหมือนจะชัน แต่รถเล็กขึ้นได้ค่ะ วิวสวย ระเบียงแบบ บรรยากาศดีมากกก ทำอาหารทาน เช้า เย็น เจ้าของใจดีมากๆ ติดต่อง่าย เลิฟมากค่ะ

แต่ถ้าใครอยากพักโรงแรม มีที่ที่นัทไปแวะแล้วชอบใน Perast คงยกให้ที่นี่ค่ะ Conte Hotel & Restaurant >> ทางไปจอง คลิ๊กที่นี่


Oyster Farm

ตอนที่เราขับรถไปตามทาง เราจะเห็นทุ่นอยู่ในน้ำแบบนี้เยอะมากๆ นี่คือฟาร์มหอยนางรมค่ะ ฟาร์มหอยนางรมในมอนเตเนโกรนั้น จริงๆ มีอยู่ไม่กี่สิบฟาร์ม แต่ทุกฟาร์มจะมาอยู่ใน Bay of Kotor นี้หมดเลย เวลาเราขับรถไปก็จะเจอฟาร์มหอยนางรมอยู่เรื่อยๆ ค่ะ

หากมาในช่วงหน้าร้อน ทางฟาร์มจะสามารถพาลงไปเก็บหอยนางรมเองกลางทะเลได้เลย แต่เรามาช่วงนี้ เค้าก็จะอธิบายวิธีการทำฟาร์ม แปะเปลือกลงไปที่เชือกแล้วรอให้หอยค่อยๆ โต นัทเองก็ไม่เข้าใจละเอียดเหมือนกันค่ะ แต่หลักๆ แล้ว เค้าเคลมว่าเป็นวิธีออแกนิค และ ยั่งยืน ทำกันมานาน แต่ที่ทำให้หอยที่นี่อร่อยและคุณภาพดี เพราะน้ำตรงนี้ ไหลมาจากภูเขาทำให้มีแร่ธาตุสูง เป็นน้ำสะอาด (อันนี้ยอมรับ เพราะน้ำใสมากกกกกก ใสแบบเห็นพื้น) แล้วพอเป็นอ่าว ก็จะไม่มีอะไรซัดเข้ามา น้ำค่อนข้างนิ่ง ทำให้หอยนางรมเจริญเติบโตได้ดี

ที่เลี้ยงที่นี่จะเป็นหอยนางรมพันธุ์ Ostrea Edulis ซึ่งหวานกรุบมากๆ ที่เห็นว่าตัวเล็กเพราะเค้าบอกว่า ตัวใหญ่ๆ มักจะขายหมดตอนนักท่องเที่ยวมาเยอะๆ ในหน้าร้อน แต่เรามาตอนตุลา ก็จะมีแค่ไซส์ประมาณนี้ค่ะ อร่อยมากๆๆๆ เราสั่งเบิ้ลหลายรอบจนเงินสดหมดอ่ะค่ะ ถ้ามีเงินสดเหลือ ก็คงสั่งอีก

นี่เค้าคิดตัวละ 1 ยูโร แต่ว่าแล้วแต่ไซส์และซีซั่น ถ้าหน้าไฮตัวใหญ่ ก็อาจจะ 8 ยูโรค่ะ พอดีวันนั้น พวกเรามีเงินสดกันแค่ยี่สิบกว่ายูโร ก็ใช้หมดตัวค่ะ

ฟาร์มไม่ได้มีปักหมุดบนกูเกิ้ลแมพ แต่ระหว่างทางจาก Perast – Kotor มีหลายฟาร์มค่ะ หมู่บ้านที่นัทอยู่ชื่อ Orahovac ขับจากอพาร์ทเม้นท์ลงไปวิ่งบนถนนหลัก มี 2 ฟาร์มใกล้ๆ กัน ไม่เกิน 5-10 นาทีค่ะ


Kotor and the wall

แม้ว่าทั้งพื้นที่แถบนี้จะเรียกว่าอ่าว Kotor Bay แต่ Kotor เองก็เป็นหนึ่งในชื่อเมือง ซึ่งเมืองนี้นั้น เป็นเมืองสำคัญมาตั้งแต่ยุคกลาง และเป็นเมืองท่าที่เรือสามารถมาหลบพายุได้อย่างดีเลยค่ะ  เคยตกอยู่ภายใต้อาณาจักรดัลมาเชีย เซิร์บ ฯลฯ ก่อนจะเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐเวนิสซึ่งเป็นยุคที่ส่งอิทธิพลให้เมืองนี้ เป็นแบบที่เราเห็นในปัจจุบันนี้ค่ะ

ในตัวเมืองเก่าเองมีที่เที่ยวมากมายทั้งโบถส์ มิวเซียม ร้านค้า ร้านอาหาร เป็นหนึ่งในพอร์ทที่เรือครู้สชอบมาจอด แต่ช่วงเช้านี้ เราขอมายัง ป้อมปราการแห่งกอเตอร์ (Fortifications of Kotor) หรือ Kotor Wall นั่นเองค่ะ

กำแพงเมือง Kotor นั้น สร้างในศตวรรษที่ 16-17 เป็นกำแพง/ป้อมปราการที่สูงถึง 260 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เดินขึ้นประมาณกิโลนิดๆ หรือประมาณ 1350 ขั้น ซึ่งขอบอกเลยค่ะว่า เราไปได้ไม่ถึงครึ่งทางเท่านั้น แต่วันที่ไป มีเรือสำราญมาลง มีผู้สูงอายุเดินขึ้นเยอะมาก เดินเก่งกันมากเลย พวกเราก็ขึ้นไปถ่ายรูปไป ตรงนี้มีค่าเข้าที่ 8 Euro ค่ะ สามารถขึ้นได้สองทาง พวกนัทใช้วิธีเดินถามคนไปเรื่อยๆ ค่ะ ทุกคนบอกทางเป็นอย่างดี


The City of Cats

ลงมาในตัวเมืองเก่า Kotor เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีทั้งมิวเซียม โบถส์ใหญ่ หลากหลายเลยค่ะ มีร้านอาหารเยอะเต็มไปหมด จัตุรัสหลากหลาย ยังคงเห็นผู้คนออกมานั่งคุยกัน มีชีวิตชีวามากๆ ร้านของฝากก็เยอะค่ะ มีร้านนวดไทยด้วยนะคะ

ที่เป็นไฮไลท์เลยคือ เมืองนี้เป็นเมืองแมวเยอะค่ะ แมวเต็มไปหมดเลยยยย แม้แต่บนกำแพงที่เราไปปีนกันมาก็เจอแมวเยอะมากตลอดทาง นี่มันสวรรค์ทาสแมวชัดๆ เลยค่ะ

พูดก็พูดเลยนะคะ นัทเสียเวลาตรงนี้ไปเยอะมากค่ะ น่าจะอยู่เป็นชั่วโมง นั่งเล่นกับแมว

อันนี้คือออกมานอกกำแพงเมืองเก่า จะเห็นตัวกำแพงและป้อมปราการที่เราขึ้นไปปีนกันมาค่ะ สูงมากๆ


Perast

อีกหนึ่งเมืองสวยที่ห้ามพลาดเลยค่ะ เมืองนี้รถจะจอดได้แค่ทางเข้าเมืองนะคะ เดินเล่นในเมืองนี้คือฟินมากกก ฝั่งนึงเป็นเมืองสวยๆ เห็นน้ำ เห็นทิวเขา บรรยากาศคือที่สุด หากมีโอกาสควรพักที่นี่ซักคืนค่ะ อย่างยอดแหลมที่เราเห็นในภาพคือโบถส์ St.Nicolas เป็นโบถส์จากช่วงที่เป็นสาธารณรัฐเวนิสเลยค่ะ

ไฮไลท์ของการมาเที่ยว Perast คือการนั่งเรือไปโบถส์กลางน้ำค่ะ จะมีอยู่สองเกาะเล็กๆ นั่นก็คือ Our Lady of the Rocks และ Island of St.George อยู่ตรงข้ามกัน

ค่าเรือไปกลับ 5 ยูโรค่ะ เกาะตรงนี้เป็นเกาะที่ถูกสร้างขึ้น น่าทึ่งมากๆ อยู่กลางน้ำเลย

ตรงนี้ก็เป็นเกาะนะคะ มีโบถส์ Our Lady of The Rocks อยู่ ส่วน Island of St. George จะไม่ได้เปิดให้ขึ้นไปค่ะ

ตรงนี้เป็นภายในโบถส์ค่ะ

วิวขากลับสวยมากๆ

ระหว่างทางกลับเราแวะร้านอาหารด้วย ร้านนี้วิวสวยมากกกก อาหารเป็นแนวทาปาสค่ะใช้ได้เลย ชื่อ Verige 65 ค่ะ  เค้ามีเมนูเอเชียในเมนูหลายรายการ แต่เราแนะนำให้เลือกเมนูอาหารตะวันตกนะคะ จะดีงามค่า

คืนนี้เราขับกลับมาใกล้ชายแดนโครเอเชีย เพื่อที่วันรุ่งขึ้นจะขับยาวกลับไปคืนรถ และบินกลับจากโครเอเชียค่ะ เราพักกันที่ Apartmani Galiot >> ทางไปจอง คลิ๊กที่นี่ อพาร์ทเม้นท์ที่บอกว่าเราลืมของไว้แล้วส่งคืนให้ เป็นทริปสั้นๆ ที่ประทับใจ และก็เซ็งตัวเอง ที่มองมอนเตเนโกรเป็นแค่ทริปเสริมจากโครเอเชีย ทั้งๆ ที่ ที่นี่มีอะไรให้ชมอีกเยอะมากๆ หากมีโอกาสคงจะกลับมาใหม่แน่นอนเลยค่ะ


ฝากติดตามรีวิวเที่ยวโครเอเชียฉบับเต็ม ซึ่งเป็นทริปที่พาเที่ยวประเทศในภูมิภาคนี้ ทั้งประเทศโครเอเชีย บอสเนียแอนด์เฮอร์เซโกวิน่า และ มอนเตเนโกรเลยค่ะ

สำหรับใครที่หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกอยู่ก็ไปเทียบราคาได้ที่ Skyscanner.com นะคะ คลิ๊กที่นี่ได้เลย!!!

หากชอบรีวิว อย่าลืมกดไลค์เพจ และ ติดตามไอจี @eatchillwander ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า

ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com

error: