[เที่ยว French Riviera ตอนที่ 1] ประเทศโมนาโก (Monaco) ขับรถเที่ยวในเมืองแห่งเศรษฐี ประเทศที่เล็กที่สุดเป็นอันดับที่สองของโลก

ทริปนี้ขอชวนให้คุณหยิบแว่นกันแดดคู่ใจ ผูกผ้าพันคอเก๋ๆ มาขับรถเลียบชายฝั่งฝรั่งเศสที่เรียกกันว่า French Riviera หรือ Cote d’Azur ชายฝั่งที่ถือว่าเป็นเมืองรีสอร์ทเมืองแรกของโลกหลังมีรถไฟและเครื่องบิน จนกลายเป็นที่พักร้อนของเหล่าราชวงศ์ เศรษฐีตระกูลดัง ไปจนถึงเหล่าดาราฮอลลีวู้ดในยุคนั้น ทำให้เมืองแถบนี้ถือเป็นเมืองที่ชิคและมีสไตล์ที่สุดแห่งยุค ที่ยังคงความเก๋ที่รอให้เราได้ไปสัมผัสว่าทำไม Cote d’Azur จึงเป็นที่รักของทุกคน
คำว่า Cote d’Azur นั้น เป็นชื่อที่ใช้เรียกภูมิภาคที่อยู่เลียบชายฝั่งฝรั่งเศสตั้งแต่แถวชายแดนอิตาลีอย่าง Menton ไปจนถึงเมือง Toulon โดยมีเมืองรีสอร์ตสุดหรูที่ยังคงเป็นเมืองพักร้อนสำหรับเซเลบริตี้ ได้แก่ Saint-Jean-Cap-Ferrat, Villefranche-sur-Mer, Cannes, Frejus, Sainte-Raphael และ Saint-Tropez รวมถึงประเทศโมนาโก (Monaco) ประเทศที่มีขนาดเล็กเป็นอันดับสองของโลก เล็กกว่าเมืองเล็กๆ ในฝรั่งเศสอีกค่ะ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเศรษฐี และยังมีเรื่องราวน่าสนใจมากมาย
สำหรับทริปชายฝั่ง French Riviera นี้ นัทไปทั้งหมด 4 เมืองในฝรั่งเศส + ประเทศโมนาโค ซึ่งมีอะไรหลากหลายมาก ทั้งหมู่บ้านบนเนินเขา เมืองริมทะเล อาหารอร่อยๆ มีแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมหลากหลาย เต็มไปด้วยงานศิลปะเพราะเคยเป็นที่อยู่ของศิลปินชื่อดังมากมาย
โดยตอนนี้ เราจะเริ่มเที่ยวกันที่ ประเทศโมนาโค (Monaco) เป็นตอนแรกก่อนเลยนะคะ
การเดินทางไปยังโมนาโค
– สนามบินที่ใกล้ที่สุด คือสนามบินเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส (Nice-Cote-d’Azur International Airport) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสนามบินใหญ่ในประเทศฝรั่งเศส และมีเที่ยวบินจากทั่วโลก การจะมาเที่ยวชายฝั่งฝรั่งเศสทั้งหมดนั้น ก็สามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ จากสนามบินเมืองนีซค่ะ
– ระหว่างเมืองนีซ มายังประเทศโมนาโค มีรถไฟวิ่งทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีค่ะ
– อย่างรถไฟจากอิตาลีไปเมืองนีซ ก็จะมีแวะโมนาโคก่อน ส่วนรถไฟจากปารีสมีมาถึงนีซ ก็ต่อมาโมนาโคได้เช่นกันค่ะ แต่แถบ Cote d’Azur รถไฟจากปารีสจะใช้เวลาเกือบ 6 ชม. เลยค่ะ แนะนำให้บินมาค่า
– ถ้าสะดวกขับรถ นัทก็ยังชอบการขับรถแถวนี้มากเลยนะคะ เพราะวิวสวยตลอดทาง อยากแวะตรงไหนก็ได้ แล้วเมืองที่มาในทริปนี้มันอยู่ติดๆกัน ใช้รถค่อนข้างสะดวกกว่าค่ะ ทริปนี้พวกนัทขับมาจากอิตาลีค่ะ ขับเข้าออกโมนาโคได้ตามสะดวก ไม่ได้มีด่านแยกอะไรค่า
– รถบัสจากนีซก็มีนะคะ ส่วนในประเทศโมนาโคเอง นัทก็ไปจอดรถเป็นที่ที่ แล้วเดินเที่ยวเอาค่ะ ถ้ามาถึงด้วยรถไฟ ก็ใช้บัสในเมืองได้ค่ะ ที่ โมนาโค ไม่มี Uber เวลาไปอ่านรีวิวต่างชาติ จะเจอที่เค้าเขียนว่า ถ้าจะเรียกอูเบอร์ ให้เดินกลับไปเขตฝรั่งเศสก่อน แล้วค่อยเรียกค่ะ
ข้อควรรู้เกี่ยวกับประเทศโมนาโค
– โมนาโก ≠ โมรอคโค เป็นคนละประเทศ ซึ่งบางคนจะสับสนค่ะ โมนาโกเป็นประเทศเล็กๆ ที่อยู่ในฝรั่งเศสอีกที ส่วนโมรอคโคคือประเทศในแอฟริกาเหนือค่ะ
– โมนาโก ถือว่าเป็นประเทศแบบรัฐเอกราช แบบ Principality (มีเจ้าชายปกครอง) ซึ่งอาณาเขตของประเทศโมนาโกจะถูกล้อมด้วยประเทศฝรั่งเศสค่ะ
– โมนาโก เป็นประเทศที่เล็กที่สุดเป็นอันดับสองของโลก ขนาดของประเทศนี้คือ 2.02 ตร.กม. ซึ่งมีความยาวเลียบฝั่งประมาณ 5 กม. ขับรถสิบนาทีคือหลุดออกจากประเทศแล้วค่ะ มันเล็กแบบ สยามไปอโศกอ่ะค่ะ
– ใช้เงินยูโร และ ใช้วีซ่าแชงเก้นเข้าได้ ขับรถ/นั่งรถไฟเข้าออกเสมือนผ่านเมืองหนึ่งเมืองในฝรั่งเศสค่ะ
– โมนาโกมีชื่อเสียงเรื่องคาสิโนที่เปิดขึ้นมา และหารายได้ให้กับประเทศได้เป็นอย่างมาก รวมไปถึงการไม่เก็บภาษีรายได้ ภาษีธุรกิจต่ำ ทำมีบริษัทต่างชาติมาตั้งอยู่ที่นี่ กลายเป็นที่มี GDP ต่อหัวสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
Monte Carlo
เห็นเมืองเล็กๆ แบบนี้ โมนาโคยังมีการแบ่งย่านเป็น 10 ย่านค่ะ ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเศรษฐีนี้ มีประชากรประมาณ 38,000 คน ซึ่งว่ากันว่า 1 ใน 3 คนจะเป็นเศรษฐีหมื่นล้าน เต็มไปด้วยที่จอดเรือยอร์ช และ รถหรูมากมายเลยค่ะ
ย่านแรกที่เราจะมาคือย่าน Monte Carlo ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Monte Carlo Casino เป็นหนึ่งในคาสิโนที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกเลยค่ะ ที่นี่นับเป็นแลนด์มาร์กของโมนาโคเลย อาคารเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ Beaux-Arts สวยงาม การเข้าไปยังคาสิโนแห่งนี้ ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ แต่จะมีโซนที่เป็นของเมมเบอร์เท่านั้น และมีเดรสโค้ดค่ะ จะไม่สามารถใส่รองเท้าสนีกเกอร์หรือชุด casual เข้าไปข้างในได้นะคะ ภายในห้ามถ่ายรูป แต่มันคลาสสิกมากๆ เลยค่ะ
ที่นี่ยังดึงดูดแฟนๆ ของ James Bond เพราะทั้งเคยอยู่ในตอน Golden Eye สมัย Pierce Brosnan เล่นค่ะ คนเลยนิยมเข้ามาบาร์ข้างในแล้วสั่ง Martini Shaken, Not stirred! ดื่มค่ะ
ข้างหน้าจะมีรถหรูมาจอดประจำเลยค่ะ จริงๆ ฝั่งข้างซ้ายของรูปจะมีคาเฟ่ Cafe de Paris ซึ่งมีคาสิโนเล็ก แล้วก็คาเฟ่/ร้านอาหาร มานั่งดูผู้คนได้ค่ะ
ทางฝั่งขวาของรูปจะเป็น Hotel de Paris Monte Carlo เป็นที่อยู่ของห้องอาหาร Le Louis XV ห้องอาหาร 3 ดาวมิชลินโดยเชฟ Alain Ducasse ที่ควรมาซักครั้งค่ะ พวกช้อปแบรนด์เนม จะอยู่ในอาคารนี้เกือบครบ แล้วก็มีใน Metropole Shopping Center ส่วนหนึ่งค่ะ ด้านหน้าเป็นสวนสาธารณะที่เก๋มากๆ แค่นี้ก็หมดวันแล้วค่า
ส่วนด้านหลังของตัวคาสิโน อ่าวจอดเรือยอร์ชค่ะ มาเดินเล่นได้ค่า
Monaco-Ville
อีกย่านที่ไม่ควรพลาดคือ Monaco City หรือย่านเมืองเก่าของโมนาโคค่ะ มีชื่อเรียกเล่นๆ ว่า Le Roche ที่แปลว่า The Rock เพราะอยู่บนเนินเขาสูงค่ะ จากย่านนี้ก็จะเห็นวิวมุมสูงสวยงาม ตัวเมืองแถวนี้เองยังจะมีความยุคกลางอยู่ค่ะ สถานที่ท่องเที่ยวก็จะเป็นไปในทางประวัติศาสตร์ ซึ่งย่านนี้บรรยากาศจะต่างจากย่านอื่นๆ ซึ่งเป็นอาคารโมเดิร์นไปหมดแล้วค่ะ
เราเริ่มจากการมาจุดชมวิวกันก่อน เพราะตรงนี้อยู่สูงก็จะเห็นวิวที่จอดเรือและหมู่ตึกของโมนาโคค่ะ วิวตรงนี้จะเห็นได้จากหน้า Prince’s Palace of Monaco เลยค่ะ ปักหมุดว่า Monaco Palais Belvedere
โมนาโค มี Monaco Grand Prix หรือการจัดรถแข่งที่มีชื่อเสียงอีกด้วยนะคะ
ส่วนฝั่งนี้จะเป็น Port of Fontvieille viewpoint ซึ่งเห็นท่าเรือ Fontvieille ด้านล่างค่ะ
Prince’s Palace of Monaco (Palais du Prince) เป็นวังที่เจ้าชายผู้ครองโมนาโกยังคงอาศัยอยู่ ซึ่งการเข้าชมด้านในจะมีแค่บางช่วงของปีเท่านั้น อย่างตอนที่เราไปจะเห็นได้เลยค่ะว่าธงถูกชักขึ้น แปลว่าช่วงนี้ เจ้าชายอยู่ที่นี่ค่ะ
แม้จะเข้าชมด้านในไม่ได้ แต่ผู้คนก็มักจะมาชม The Changing of Guards หรือการเปลี่ยนทหารในเวลา 11.55 น. ค่ะ
ในย่านเมืองเก่า Monaco City นี้ สามารถเดินถึงกันได้เลยนะคะ มีร้านอาหาร ร้านค้าตลอดทาง
เราเดินมาถึงอีกสถานที่สำคัญ นั่นคือ Saint Nicholas Cathedral โบถส์ใหญ่แห่งสำคัญของโมนาโกค่ะ ที่นี่เป็นสไตล์ Roman-Byzantine ภายในเป็นที่ฝังศพของเจ้าชายโมนาโกในราชวงศ์ Grimaldis รวมไปถึงเจ้าหญิงเกรซ หรือ Grace Kelly นักแสดงชาวอเมริกันที่แต่งงานเข้าสู่ราชวงศ์ ผู้ที่ทำให้กระเป๋า Hermes รุ่นที่เธอใช้ถูกชื่อว่า Kelly นั่นเองค่ะ
ตรงปลายชายฝั่งของ Le Roche นี้ เป็นที่ตั้งของ Musee Oceanographique de Monaco พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ที่มีอควาเรียมขนาดใหญ่ด้านใน มีแทงค์ฉลาม สัตว์น้ำนานาชนิด และ นิทรรศการที่จัดไว้เป็นอย่างดี
นอกจากที่ที่เราไปมาในโพสท์นี้แล้ว โมนาโกยังมีย่านอื่นๆ ที่เป็นย่านอยู่อาศัย มีชายหาด อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่เล็ก แต่มีอะไรน่าสนใจให้ทำเพียบ!
ติดตามตอนถัดไปที่เราจะพาไปเมืองต่างๆ บนชายฝั่งฝรั่งเศส ตั้งแต่นีซสู่คานส์ ไปเดินพรมแดงกันเก๋ๆ นะคะ
สำหรับใครที่หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกอยู่ก็ไปเทียบราคาได้ที่ Skyscanner.com นะคะ คลิ๊กที่นี่ได้เลย!!!
หากชอบรีวิว อย่าลืมกดไลค์เพจ และ ติดตามไอจี @eatchillwander ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า
ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com