หากใครมาเที่ยว มิลาน ประเทศอิตาลี แล้วกำลังมองหาที่เที่ยวหนึ่งวันแบบ day trip ง่ายๆ จากมิลาน นัทขอแนะนำเมือง Bergamo อีกหนึ่งเมืองสวยในแคว้นลอมบาร์ดี ล้อมรอบด้วยหุบเขา มีเมืองเก่าที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหนเลยค่ะ

ก่อนอื่นต้องบอกว่า ชื่อ Bergamo นั้น อาจจะเคยได้ยินบ่อยๆ จากสนามบิน Bergamo Airport เพราะ มิลานนั้นมี 3 สนามบิน นั่นก็คือ Malpensa ซึ่งเป็นสนามบินใหญ่, Linate สนามบินรองลงมา และ Bergamo ซึ่งเป็นเหมือนสนามบินที่เที่ยวบินโลว์คอสท์มักจะบินมาลงประจำ

หลายๆ คนเดินทางมา Bergamo เพื่อขึ้นเครื่องบิน แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้แวะในเมือง Bergamo ค่ะ หากคุณจะมาแวะขึ้นเครื่อง หรือ เที่ยวมิลานจนครบแล้วอยากหาอะไรทำง่ายๆ เปลี่ยนบรรยากาศ แต่เดินทางไม่ไกล Bergamo ก็เป็นเมืองที่น่าเที่ยวมากค่ะ

---

วิธีการเดินทางไป Bergamo

ถ้ามาจากมิลานจะมีทั้งรถไฟและรถบัส อยู่ที่ประมาณ 4.8-5.80€ เท่านั้น

หากนั่งรถไฟจาก Milan ไป Bergamo จะขึ้นที่สถานี Milano Centrale ค่ะ มีรถไฟตรงทุกชั่วโมง ใช้เวลา 48 นาที ซื้อตั๋วออนไลน์ไปก่อนก็ได้ หรือ ไปซื้อที่สถานีก็ได้ค่ะ

หากนั่งรถบัส จะเป็น flixbus ขึ้นที่ Milano Lampugnano นั่งเมโทรไปได้ แต่นัทว่า รถไฟสะดวกกว่า

ทั้งสองสายนี้ จะไปลงที่สถานีกลาง Bergamo ไม่ใช่ สนามบิน Bergamo นะคะ แต่จากตรงนี้ ก็มีบัสไปสนามบิน Bergamo ค่ะ

แต่ใครจะไปสนามบินเลย ก็มีรถบัสตรงจาก Milano Centrale ที่เป็นสถานีรถไฟเหมือนกัน เป็นบัสของ Autostradale ค่ะ

จากนั้นมาซื้อตั๋ววันของ Bergamo ซึ่งขึ้นได้ทั้งบัสสนามบิน บัสในเมือง รถรางต่างๆ ในราคา 5€ ใช้ได้ 24 ชม. ทางเราก็ถือตั๋วไม่ถึงสองร้อยบาทเนี่ยแหล่ะ เที่ยวทั่วเมืองเลยค่ะ วิวสวยมากๆ ที่นี่แบ่งเป็น Upper Town และ Lower Town คือเมืองที่อยู่บนเนินเขา และเมืองที่อยู่ด้านล่าง ทำให้เป็นเมืองที่ยูนี้คมากๆ เลย

---

One Day in Bergamo

เนื่องจากนัทเดินทางมาขึ้นเครื่องบิน จึงฝากของทั้งหมดไว้ที่ Locker ตรงสถานีค่ะ เมือง Bergamo อ่านเป็นภาษาอิตาเลียนว่า แบร์กาโม่ หรือ อ่านว่าเบอร์กาโม่ก็ได้ค่ะ ลักษณะของเมืองจะแบ่งเป็น Upper Town และ Lower Town ก็คือมีเมืองที่อยู่บนเนินเขา มีกำแพงเมือง แบบมองขึ้นไปก็เห็นเป็นเมืองเลย และเมือง Lower Town คือเมืองที่อยู่บนพื้นราบ

ซึ่งที่เที่ยวส่วนใหญ่จะอยู่บน Upper Town เป็นเมืองเก่ายุคกลางค่ะ เราเริ่มจากตรง Porta Nuova ตรงนี้ออกจากสถานีรถไฟมานิดเดียว เรามารอรถบัสที่จะขึ้นไปยังเมืองเก่าด้านบน ซึ่งการขึ้นไปนั้น สามารถขึ้นด้วยรถรางไต่เขาได้ แต่คิวยาวมากๆ นัทเลยขึ้นบัสยาวไปข้างบนมาลงกันที่สถานี Colle Aperto ค่ะ บัสหลักๆ ใช้สายเดียวคือสาย 1

จากตรงป้ายรถบัสที่เราลง ให้กดแผนที่สถานี Funicolare S. Vigilio เป็นรถรางเล็กๆ ที่รวมอยู่ในตั๋ววันแล้วค่ะ เดินมาจากป้ายเมื่อกี้ประมาณ 500 เมตรค่ะ รถรางตรงนี้ใช้เวลานิดเดียว ขึ้นเขาชันระยะทางประมาณ 300 เมตร ไม่กี่นาที ซึ่งนัทคือขึ้นไปแล้วจะเดินลงมาค่ะ แต่ใครจะชมวิว แล้วลงทางรถรางก็ได้นะคะ

เราเดินย้อนลงมาบนถนน Via San Vigilio ซึ่งนัทแนะนำมากๆๆๆๆๆ เพราะวิวสวยมากแล้วเป็นทางลาดลง ประมาณ 450 เมตร เดินเล่นสั้นๆ ดูวิวประมาณ 10 นาที นัทว่าสวยมาก คุ้มเดินมากค่ะ

บน Citta Alta หรือ Upper Town นั้น จะถูกล้อมด้วยกำแพงเก่าที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 มีทั้งวังและชาเปลที่ตกแต่งอย่างงดงาม

วิวทั้งหมดนี้คือระหว่างทางค่ะ

ลงมาถึงสถานีรถรางที่เราขึ้นด้านล่างเมื่อซักครู่ ก็มานั่งทานอาหารเที่ยงค่ะ ร้านนี้ชื่อว่า Antica Trattoria La Colombina ร้านแรนดอมมาจากกูเกิ้ล รีวิวดี อาหารใช้ได้ ราคานักท่องเที่ยวนิดนึง

เวลามาแคว้น Lombardy อาหารที่นี่จะมี Polenta อยู่เสมอเลยค่ะ (โพเลนต้าคือ cornmeal บด เป็นเหมือนกึ่งโจ๊กกึ่งมันบด แต่ทำมาจากเมล็ดข้าวโพดค่ะ)

จากนั้น เราก็จะไปในเมือง Upper Town กันแล้วค่ะ จากร้านอาหารนัทเดินลัด Piazza delle Cittadella เข้ามาค่ะ จริงๆ ตัวอาคารนี้เป็นที่อยู่ของ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ด้วย

เราก็จะเดินตรงสู่ Via Bartolomeo Colleoni ซึ่งเป็นถนนเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยร้านน่ารักๆ ตลอดสองข้างทาง

จริงๆ มาหาอะไรทานแถวนี้ ก็มีออปชั่นเยอะมากค่ะ ขนม ไอศครีม ตลอดทาง

ประมาณ 300 เมตร ก็จะมาถึง Piazza Vecchia จัตุรัสใจกลางเมือง ด้านหลังในรูปคือ Palazzo Nuovo หมู่อาคารรอบๆ นี้ สวยมากค่ะ

หันมาจะเจอ Basilica di Santa Maria Maggiore สร้างในศตวรรษที่ 15 อยู่ข้างๆ กับวัดน้อย Cappella Colleoni เป็นชาเปลที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ลอมบาร์เดีย นับเป็นสถาปัตยกรรมแบบ เรเนซองส์ ถือว่าแปลกตาเป็นเอกลักษณ์ และดูอลังการมากเลย โดยเฉพาะเทียบกับโบถส์ที่มีทางอิตาลีตอนเหนือค่ะ

จากนั้นก็เดินลัดเลาะมาเรื่อยๆ ลงมาตรงป้ายรถบัสตรง Porta san Giacomo ค่ะ

The City Wall กำแพงเมืองเก่า ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ด้วยนะคะ

นั่งบัสกลับมาที่ Porta Nuova ตรงที่เราขึ้นรถบัสเมื่อเช้าค่ะ

จากนั้นก็นั่งบัสสาย 1 เหมือนเดิม ไปเอากระเป๋าที่สถานี แล้วนั่งไปสนามบิน ใช้เวลา 20-25 นาทีเท่านั้น ง่ายมากๆ เลยค่ะ

ทั้งหมดนี้นั่งบัสสาย 1 วิธีที่นัทดูคือ ตอนจะไปเมืองเก่าข้างบน ก็ไปยืนรอบัสที่ถนนและรถมุ่งหน้าไปทางเมืองข้างบน พอขากลับ ก็คือมองตามรถ ที่มุ่งหน้าไปอีกทางค่ะ แต่รู้สึกว่าป้ายหน้าบัสจะเขียนเลยว่า Aeroporto ที่แปลว่าสนามบิน ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้บัสสายเดียว และตั๋ววันเดียวเลยค่ะ

นี่วิวจากใต้ปีกเครื่องบินค่ะ

---

ใครที่หาที่เที่ยวมิลานอยู่ ไปอ่านต่อได้นะคะ คลิ๊กที่รูปได้เลย

นัทเขียนรีวิวเมืองในอิตาลีไว้กว่า 20 เมือง ไปอ่านได้ คลิ๊กที่นี่

---

หากชอบรีวิว อย่าลืมกดไลค์เพจ และ ติดตามไอจี @eatchillwander ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า

 

---

ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com