ประเทศที่ไปได้ช่วงโควิด และแชร์ประสบการณ์การเดินทางต่างประเทศในช่วงโควิด
นัทก็เหมือนกับทุกๆ คนค่ะ ชอบการเดินทางต่างประเทศมากๆ และก็ไม่ได้เดินทางมาตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เชื่อว่าทริปสุดท้ายของใครหลาย ๆ คน จะเป็นในช่วงมีนา–เมษา ของปี 2020 ใช่มั้ยคะ? ในวันนี้ เดือนเมษายนปี 2021 เราเริ่มได้เห็นหลายๆ ประเทศเปิดให้มีการเดินทาง นัทจึงรวบรวม ประเทศที่เปิดพรมแดนแล้ว
และก็จะมาขอตอบคำถามที่ทุกคนอยากรู้ เกี่ยวกับการเดินทางต่างประเทศ ในช่วงโควิด-19 ให้ทุกคนฟังค่ะซึ่งต้องแจ้งก่อนนะคะว่าข้อมูลเหล่านี้มีการอัพเดทกันแทบจะรายวันอยากไปที่ไหนควรเช็คกับเว็ปทางการของแต่ละประเทศก่อนค่า (ข้อมูล ณ วันที่ 6 สค. 2564)
ขอแบ่งเป็น 5 พาร์ทนะคะ
- เดินทางได้แล้วเหรอคะ?
- รายชื่อประเทศที่เดินทางไปได้ช่วงโควิด
- ที่สนามบินเป็นอย่างไรบ้าง?
- รีวิว 4 ประเทศที่ฝ่าโควิดไปมา
- การเดินทางกลับเข้าประเทศไทย
1. เดินทางได้แล้วเหรอคะ?
ข้อนี้จะบอกว่าเป็นการตัดสินใจส่วนบุคคล ก่อนอื่นต้องยอมรับสถานการณ์ ว่าโลกของเรายังมีการแพร่ระบาดของโรคอยู่ นั่นหมายความว่า การออกจากบ้านมีความเสี่ยง และ เราต้องยอมรับกฎและข้อปฏิบัติของแต่ละประเทศค่ะ
มีหลายประเทศเลือกที่จะเลือกเศรษฐกิจ เค้าก็ปล่อยให้คนออกมากินเที่ยวและใช้ชีวิตค่ะ นักท่องเที่ยวแค่มีผลตรวจ PCR เป็นลบก็เข้าได้เลยไม่ต้องกักตัว ส่วนกฏของที่ไทยนั้น นัทก็เคารพเรื่องการกลับมากักตัวในโรงแรมแบบ ASQ เป็นระยะเวลา 14 วัน พร้อมบังคับตรวจโควิด 3 ครั้ง เพื่อที่จะเป็นการเมคชัวร์ว่า เราไม่อิมพอร์ทสายพันธุ์หรือโรคอะไรเข้ามาแน่ ๆ
สำหรับทริปนี้นัทยังไม่ได้ฉีดวัคซีนค่ะตอนนั้นนัทก็ชั่งใจเหมือนกันแต่รู้สึกว่าสุขภาพจิตเสียมากๆหดหู่ห่อเหี่ยวขาดแรงบันดาลใจส่วนตัวพอได้ออกมาแล้วคิดว่าตัดสินใจถูกมากๆเราคิดถึงการเดินทางการกลับมาเจอวัฒนธรรมใหม่ๆผู้คนเห็นเด็กวิ่งเล่นการไปบาร์คุยกับคนแปลกหน้าใช้ชีวิตตามปกติค่ะ
— แต่สุดท้ายก็มีหลักเกณฑ์ในใจนะคะ ตอนไปนัทเลือกประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไม่เกิน 100-300 เคสต่อวันค่ะ แล้วก็ทำประกันการเดินทางไปเผื่อค่ะ (ทำทุกทริป ทำรายปีไว้อยู่แล้วค่ะ)
2. ช่วงโควิดไปไหนได้บ้าง
จริงๆ ตั้งแต่เดือนเมษาที่นัทเดินทาง มีประเทศที่เปิดและเดินทางได้เยอะมากค่ะ นัทเลือกจากฤดูกาล เมืองเปิด ร้านเปิด แล้วก็จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศนั้นเป็นหลักอย่างประเทศในแอฟริกามันยังไม่ใช่ฤดูน่าเที่ยวก็ข้ามไปก่อน หรือ ตุรกีก็เปิดประเทศแต่ติดวันละหกหมื่นก็ไม่ไหว ส่วนตัวนัทเลยไปจบที่เอเชียกลางค่า
ถึงตอนนี้ แต่ละประเทศก็จะมีหลักเกณฑ์แตกต่างกันไป นัทขอพูดถึงกรณีเดินทางในฐานะ “นักท่องเที่ยว” ถือ Tourist/Visitor Visa ที่เดินทางออกจาก “ประเทศไทย” และ ไปถึงแล้วไม่ต้องกักตัว เท่านั้นนะคะ ประเทศที่ไปถึงแล้วต้องกักตัว นัทข้ามไปนะ
อ้อ คำว่าไปได้คือมี ผล PCR ตรวจโควิดเป็นลบนะคะ บางประเทศก็เปิดแบบไม่ขอผลตรวจด้วย แต่สายการบินส่วนใหญ่ขออยู่ดีเลย ถือว่าต้องมีนะคะ
2.1 ประเทศที่ไปได้ช่วงโควิด โดยไม่ต้องฉีดวัคซีน และ ไม่ต้องมีวีซ่า หรือขอวีซ่าออนไลน์ได้
(นัทแยกออกมา เพราะบางประเทศ ไปได้แต่ต้องขอวีซ่า แล้วสถานทูตไม่เปิด หรือ คิววีซ่ายาว ก็ไปไม่ได้อยู่ดีค่ะส่วนประเทศที่ต้องขอวีซ่าออนไลน์นี่คล้ายๆ ช้อปปิ้งออนไลน์อ่ะค่ะ กรอกข้อมูล อัพรูป จ่ายเงิน อีก 3 วัน วีซ่าเข้าเมล์ ปริ้นท์ไปยื่นได้เลย)
ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า Brazil, Dominican Republic, Ecuador, Peru, Seychelles, South Africa, Turkey
ประเทศที่คนไทยขอวีซ่าออนไลน์หรือ on arrival ได้ : Armenia, UAE, Kyrgyzstan, Uzbekistan (4 ประเทศที่เราไปมาทริปนี้ค่ะ), Albania, Ukraine, Jordan, Tajikistan, Tanzania, Ivory Coast, Mozambique, Namibia, Rwanda, Sierra Leone, Uganda, Zambia
2.2 ประเทศที่ไปได้ช่วงโควิด โดยไม่ต้องฉีดวัคซีน แต่ต้องขอวีซ่าที่สถานทูต
Andorra, Belarus, Bosnia and Herzegovina, Czech Republic, Kosovo, Monaco, Montenegro, Slovenia, Switzerland, North Macedonia, Romania
USA, Mexico, Costa Rica, Colombia, Aruba, Bahamas, Belize, El Salvador, Curacao, Guatemala, Haiti, Honduras, Jamaica, Panama, Puerto Rico, Saint Lucia, US Virgin Islands, Turks and Caicos, Saint Maarten
Botswana, Egypt, Afghanistan, Burkina Faso, Eswatini, Gambia, Ghana, Iraq
2.3 ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้ว สามารถเข้าได้โดยไม่ต้องกักตัว
อันนี้ต้องไปเช็คค่ะ เพราะแต่ละประเทศใช้ลิสท์วัคซีนที่ให้เข้าไม่เหมือนกัน แม้แต่ในสหภาพยุโรปเอง ก็ใช้ลิสท์ไม่เหมือนกัน บางที่ยึดตามลิสท์ WHO (รับ Sinovac, Sinopharm) บางที่รับตามลิสท์ EMA องค์กรที่เหมือนอย.ของยุโรปซึ่งยังไม่รับรองวัคซีนรัสเซียและจีน
– ประเทศใน EU ที่รับผู้ฉีด Sinovac ให้เดินทางได้โดยไม่ต้องกักตัว : Austria, Cyprus, Finland, Greece, Iceland, Netherlands, Spain, Sweden
– ประเทศใน EU ที่รับผู้ฉีด Sinopharm ให้เดินทางได้โดยไม่ต้องกักตัว : Austria, Cyprus, Greece, Hungary, Iceland, Malta, Spain, Sweden
ประเทศใน EU ที่เหลือ รวมถึง UK รับวัคซีนตามลิสท์ EMA หมดแล้วค่ะ ส่วนประเทศที่เหลือต้องไปดูรายประเทศค่ะ (หลายที่หากไม่ได้ฉีดวัคซีนไปก่อน ไปถึงเข้าได้นะคะแต่ต้องกักตัวค่ะ บางที่คือต้องมีเหตุจำเป็นเท่านั้นค่ะ)
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ เหลือ 59 ประเทศจากเกือบสองร้อยประเทศในโลก ที่ยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่เดินทางโดยไม่จำเป็น (Non-Essential Travel) เลยค่ะ เช่น แคนาดา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ รับเฉพาะผู้มีเหตุจำเป็นในการเดินทางและคนของประเทศตัวเองค่ะ
3. การเดินทางในช่วงนี้ เป็นอย่างไรบ้าง? เครื่องบิน บินปกติมั้ย? เสิร์ฟอาหารมั้ย?
– ทุกครั้งที่จะขึ้นเครื่องบิน เที่ยวบินต่างประเทศ ตอนเช็คอินจะเช็คผลตรวจ PCR เป็น Negative ภายใน 48 หรือ 72 ชม. แล้วแต่นโยบายของสายการบิน และ ตม.ประเทศปลายทาง เท่าที่ถามมา เพื่อความชัวร์คือ นับเวลาจากตอนปั่นจมูก ไปจนถึงตม. ปลายทางค่ะ
– บนเครื่องบิน เสิร์ฟอาหาร เปิดจอ มีหนัง เกมส์ Entertainment เสิร์ฟขนม น้ำ ตามปกติค่ะ แค่ให้ใส่แมสก์ไว้ตลอดที่ไม่ทานอาหารค่ะ ที่นั่งไม่มีการเว้นที่ค่ะ เราเจอไฟลท์เต็มเกือบทุกไฟลท์ ยกเว้นไฟลท์จากดูไบ เข้า กทม. ค่ะ
– สนามบินที่ได้ไปในทริปนี้คือ สนามบินดูไบ, สนามบินทาชเก้นต์, สนามบินบิชเคก และ สนามบินเยเรวาน ค่ะ ทุกอย่างคือปกติทั้งขาเข้าและขาออกค่ะ ไม่มีสแกนแอพพลิเคชั่น ไม่มีตรวจอุณหภูมิ สแกนกระเป๋า เข้าไปเช็คอินปกติเลยค่ะ ร้านอาหาร ร้านค้า เปิดปกติค่ะ
– ตอนเข้าแต่ละประเทศ บางประเทศจะมีจนท.มายืนเช็คผลตรวจโควิด (ที่ไปมาคือ ปริ้นท์เองได้ ขาวดำได้) ผ่านตม. รับกระเป๋าเสร็จปุ๊ป ก็สามารถเดินไปขึ้นแท็กซี่หรือขนส่งสาธารณะได้เลย เราจะเห็นภาพครอบครัว คนรัก มายืนรอรับ วิ่งมากอดกัน ตามปกติเลยค่ะ เป็นภาพที่ไม่ได้เห็นมานาน
4. รีวิว 4 ประเทศที่ฝ่าโควิดไปมา
ส่วนตอนเที่ยวอยู่ในแต่ละประเทศ ชีวิตก็ค่อนข้างปกติเลยค่ะ แถมเราเองยังได้ฉีดวัคซีนโดยไม่คาดคิดมาก่อนอีกด้วย เดินๆ อยู่ จนท.เดินรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนเค้าก็เรียกเราไปฉีดเลย ประทับใจมากๆ ค่ะ
ทยอยเขียนอยู่นะคะ ไปอ่านรีวิวประเทศแรกได้ [เที่ยว อุซเบกิสถาน ด้วยตัวเอง Ep.1]
5. การเดินทางกลับเข้าประเทศไทย
ตอนตัดสินใจไป Phuket Sandbox ยังไม่มีประกาศชัดเจน แล้วตอนนั้น นัทกลัวที่พักกักตัว ASQ เต็มเลยรีบจองไปก่อนค่ะ ส่วนใหญ่จะคืนเงินไม่ได้
ส่วนตัวนัทถือว่าตัวเองไปเที่ยวเอง เลยรับผิดชอบตัวเอง ไม่ได้ใช้โรงแรมกักตัวที่รัฐจัดให้นะคะ นัทจ่ายเองค่ะ เริ่มต้นที่เห็นจะอยู่ที่ 28,000 บาทขึ้นไป สำหรับ 16 วัน 15 คืน โดยนับวันที่บินมาถึงเป็น Day 0 แล้ววันถัดไปถึงจะนับเป็น Day 1 ค่ะ มีการตรวจ PCR โควิด 3 ครั้ง ในช่วง 14 วันค่ะ
คิดว่าที่แพง ก็เพราะค่าตรวจโควิดด้วยค่ะ แม้จะเข้า Phuket Sandbox แบบไม่ต้องกักตัวอยู่แต่ในห้อง ก็ต้องตรวจ PCR 3 ครั้ง ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นประมาณ 8,000++บาท เหมือนกันค่ะ
สำหรับเอกสารที่ใช้เช็คอินกลับไทยคือ
1. เอกสาร COE : ของนัทมียื่นขอไป 3 รอบจาก 2 สถานทูต (เพราะเปลี่ยนแปลงการเดินทาง) ได้เร็วมากกก ทั้ง 3 รอบค่ะ ทำเช้าได้บ่าย ทำบนเว็ป https://coethailand.mfa.go.th/ ได้เลยค่ะ ควรเตรียมรูปหน้าพาสพอร์ท และ ไฟล์ .pdf ตั๋วเครื่องบินและใบจองโรงแรมไว้ก่อนเลยนะคะ (ความช้าเร็ว ขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ที่สถานทูตนั้นๆ ซึ่งบางแห่งอาจจะคนขอเยอะมากกกก หรือ รายละเอียดเยอะ แนะนำให้เผื่อเวลาขอก่อนหลายๆ วันนะคะ)
2. ใบจองโรงแรม ASQ
3. แบบฟอร์ม ต.8 เป็นแบบฟอร์มเหมือนซักอาการโควิดอ่ะค่ะ มากรอกตอนถึงก็ได้ หรือจะปริ้นท์กรอกมาก่อนก็ได้
4. เค้าให้ลงทะเบียนแอพพลิเคชั่น Thailand+ คล้ายๆ พวกไทยชนะอ่ะค่ะ ก็โหลดแล้วก็กรอกเลขบนใบ COE ลงไป ทุกวันนี้ก็ไม่เห็นเค้าตรวจอะไรนะคะ
สิ่งที่ต้องขอชื่นชมคือน้องๆ เจ้าหน้าที่ที่สุวรรณภูมิค่ะ คล่องแคล่วมากกก เหมือนจำโรงแรม ASQ ได้หมดเลย จัดการรถรับส่งเร็วมากๆ เร็วกว่าปกติอีกค่ะ ขั้นตอนก็คล้ายๆ เดิม แค่เพิ่มเช็คเอกสาร+ซักอาการจากสาธารณสุข แล้วก็ผ่านตม. รับกระเป๋า ผ่านศุลกากร ออกมาปุ๊ป เจ้าหน้าที่จะจัดเรื่องรถรับส่งไปโรงแรมให้เลยค่ะ
ช่วงเวลา 15 คืน ที่โรงแรมกักตัว ASQ ของนัท ผ่านไปเร็วมากกก กฎคร่าวๆ คือ ห้ามออกจากห้อง และ ไม่สามารถฝากของจากเราออกไปข้างนอกได้ แต่สามารถให้ข้างนอกมาฝากของให้เราได้ สั่งอาหาร ช้อปปิ้งออนไลน์ ทุกอย่างมาถึงหน้าห้องหมดเลยค่ะ สำหรับคนชอบอยู่ห้องก็ถือว่าสบายมากๆ ส่วนตัวนัทไม่เบื่อเลย — ติดแค่ค่าใช้จ่ายสูงเนี่ยแหล่ะค่ะ ไปอีกทริปได้เลย
หากใครมีข้อสงสัยอะไร สามารถถามได้ทั้งทางเฟซบุ๊ค Eat Chill Wander และอินสตาแกรม @EatChillWander เลยนะคะ
ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com