หนึ่งในที่เที่ยวใกล้เมืองไทย ที่นัทมักบอกทุกคนเสมอว่า หากมีเวลาควรไปซักครั้ง นั่นคือ เมืองเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา หรือ อ่านตามภาษาสากลว่า เสียมเรียบ (Siem Reap) ซึ่งหากใครไม่คุ้น ที่นี่คือที่อยู่ของ “นครวัด นครธม” หนึ่งในโบราณสถานอันน่ามหัศจรรย์ของโลกค่ะ

เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา อันเป็นที่ตั้งของ นครวัด นครธม นั้น จริงๆ ห่างจากกรุงเทพฯ แค่ไม่ถึง 400 กม. เองค่ะ นั่งเครื่องบินแค่ชั่วโมงเดียว โดยนครวัด นครธม เป็นโบราณสถานที่ทำให้เราเห็นถึงอารยธรรมเก่าแก่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างอารยธรรมจากจักวรรดิขแมร์ (Khmer Empire คศ. 802 – 1431) ซึ่งของจริงนั้น ยิ่งใหญ่วิจิตร น่าทึ่งว่าสร้างได้อย่างไร และควรมาสัมผัสเองซักครั้งค่ะ

นอกจาก นครวัด แล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่นัทมาเสียมเรียบ ตอนนี้ สะดวกสบายมาก ทั้งการเดินทาง ถนนหนทางดีหมดแล้ว ใช้ชีวิตง่ายสุด เรียกแกร็บได้ รับบัตรเครดิต มีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหารเก๋ๆ บาร์ฮิปๆ มีบรรยากาศของความเป็นเมืองสากลดิจิตอลโนแมดประมาณนึงเลยค่ะ บรรยากาศชิลล์มาก นัทอยู่พักผ่อนให้ครบ 14 วันตามที่คนไทยสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าสบายๆ

---

ข้อมูลทั่วไปในการเที่ยวเสียมเรียบ

– การเดินทาง : มีบินตรงจากไทย โดย บางกอกแอร์เวย์ และ แอร์เอเชียค่ะ บินจริงๆ ประมาณ 55-60 นาทีเท่านั้น

**อัพเดท** ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2566 เสียมเรียบเปลี่ยนสนามบินจาก Siem Reap International Airport (REP) เป็น Siem Reap ANGKOR International Airport (SAI) ซึ่งอยู่ห่างออกไปใช้เวลาเดินทางประมาณ 40-60 นาทีแล้วแต่ช่วงเวลาค่ะ ดังนั้น ต้องเผื่อเวลาเดินทาง และค่าแท็กซี่เข้าเมืองจะตกอย่างน้อย 25$ (ลองเช็คในแกร็บหรือต่อรองคนขับอีกทีนะคะ) ทางสนามบินมี Airport Bus เข้าเมืองขาละ 8$ ค่ะ

– วีซ่า : คนไทยเข้าได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า 14 วัน

– ภาษา : ใช้ภาษากัมพูชาเป็นภาษาราชการ มีอักษรเป็นของตัวเอง แต่ตามสไตล์เมืองท่องเที่ยว ใช้ภาษาอังกฤษได้ทั่วไปเลยค่ะ

– เมือง เสียมเรียบ อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศกัมพูชา เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดของประเทศ มากกว่าเมืองหลวงอย่างพนมเปญด้วยค่ะ ดูได้จากเครือโรงแรมหรูที่พากันมาเปิดที่เมืองนี้ได้เลย

– นัทเดินทางรอบๆ โดยใช้ Grab เป็นหลักค่ะ แอพเดียวกับที่ใช้ที่ไทย จะมีให้เลือกเป็น Remoque (รถสามล้อที่ใช้มอเตอร์ไซค์ลาก), ตุ๊กตุ๊ก หรือ รถยนต์ค่ะ เรียกจากสนามบินได้เลย

– มีแค่วันที่ไป โตนเลสาบ ที่ให้ทางโรงแรมจัดให้ เพราะเป็นแพกเกจปิคนิคชมพระอาทิตย์ตก และ วันที่ไปวัดต่างๆ ที่ใช้ไกด์คนไทย ชื่อ คุณเดือน ติดต่อที่ไลน์ https://line.me/ti/p/Qp7-sP57jT  ข้อดี ของการเหมาไกด์ ก็คืออยู่กับเราทั้งวันและจัดไปได้ทั่วตามที่เราต้องการ ยิ่งตอนไปวัดไกล (Beng Mealea) ยิ่งต้องใช้ค่ะ จริงๆ ให้คุณเดือนจัดทั้งทริปให้ก็ได้ เพราะคุณเดือนมีรถตุ๊กตุ๊ก รถยนต์ และ รถตู้ เป็นของตัวเองค่ะ จะเหมา 3-4 วัน รับตั้งแต่สนามบินเลยก็สะดวก ลองไปตกลงราคาดูค่ะ

– หากไม่ติดต่อไกด์ไปก่อน สามารถไปติดต่อเหมาตุ๊กตุ๊กแถวนั้นได้เลยค่ะ ให้โรงแรมติดต่อไกด์ให้ก็ได้ ถ้าเหมาเป็นวันจะดีตรงที่ ไม่ต้องไปหาเรียกรถค่ะ แล้วคุยกับเค้าก่อนนะคะว่าจะไปจุดไหนบ้าง กลับมาทานข้าวในเมืองรึป่าว เวลารับส่งต่างๆ

– นัทแลกเงินไปไม่เยอะค่ะ พกเงินดอลล่าไป เพราะเค้าก็รับดอลล่ากัน ค่าครองชีพไม่ได้สูงมากแต่ถ้าเราเข้าร้านที่ดูเป็นทัวริสท์หน่อย ราคาก็มาเป็นดอลล่าเลย กาแฟในคาเฟ่ยังแก้วละประมาณ 60 ค่ะ เรียกแกร็บทีก็ 40-60 บาท ทานข้าวในร้านดีๆ ก็ต้องมี 500-1000 แต่ถ้าข้างทางก็ถูกไปเลยค่ะ

– สิ่งที่ราคาสูงที่สุดในทริปนี้คือ ค่าเข้าโบราณสถานทั้งหมดค่ะ เป็นพาส ใช้สำหรับเข้าโบราณสถานทั้งหมด ที่อยู่ในรัศมี 50 กม.รอบนครวัด ราคาอยู่ที่ 1 วัน 37USD, 3 วัน 62USD, 7 วัน 72USD จะถ่ายรูปเราติดไว้บนพาส เปลี่ยนมือไม่ได้นะคะ จุดจำหน่าย รับบัตรเครดิตค่ะ

– โดยทั่วไป รู้สึกปลอดภัยนะคะ ออกไปเที่ยวกลางคืนก็ฟีลเหมือนไปถนนข้าวสาร นอกนี้ก็ไม่มีอะไรค่ะ ตอนที่ไปครั้งแรกนัทไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนนั้น ถนนยังเป็นฝุ่นๆ อยู่ และ เด็กขอทานเยอะมากเป็นขบวน แต่ครั้งล่าสุด เป็นถนนดีๆ หมดแล้ว และเด็กขอทานก็แทบไม่เจอเลยค่ะ มีคนขายของเอาของมาเสนอบ้าง แต่บอกว่าไม่เอา ก็ไม่มาตื๊อค่ะ

– ฤดูน่าเที่ยว : ก็คงต้องบอกว่าฤดูหนาว ซึ่งเค้าอากาศแบบ 16-17 องศาเลยค่ะ แต่ก็อาจจะราคาขึ้นนิดนึง ถ้าหน้าโลว์จะเป็นช่วงฤดูร้อนกับฝน แต่ปลายฝนอย่าง กันยา ตุลา มีช่างภาพบอกว่า ถ่ายรูปสวย เพราะทุกอย่างมันจะเขียวชะอุ่มมากๆ — นัทเองไปมาช่วง มิถุนา ก็เป็นช่วงร้อนเลยค่ะ แต่มันก็ร้อนแบบ ไปพวกเกาะหรือทะเลก็ประมาณนี้ แนวทรอปิคอล ก็สลับๆ อยู่ในร่มหรือห้องแอร์เอาค่ะ

---

ที่เที่ยว เสียมเรียบ

เสียมเรียบ โดยทั่วไปนั้น มักจะจัดทริปกันประมาณ 3 วัน โดยมี วันมาถึง เที่ยวเมือง วันรุ่งขึ้น นครวัดนครทม 1 วัน วันสุดท้ายเตรียมตัวกลับ แต่จริงๆ ที่เสียมเรียบ มีที่เที่ยวเยอะมาก แล้วมาปล่อยใจชิลล์ๆ ได้ เป็นฟีลเหมือนพักผ่อนต่างจังหวัด นัทเขียนไว้ 25 จุด แบ่งเป็น แลนด์มาร์กสำคัญ, ร้านอาหารและคาเฟ่, วัดรอบนอก, แหล่งช้อปปิ้งในเมือง และ ที่เที่ยวในตัวเมืองค่ะ

แลนด์มาร์กสำคัญ

1. นครวัด (Angkor Wat)

ในภาษากัมพูชาและภาษาอังกฤษจะเรียกว่า Angkor Wat และคำว่า Angkor แปลว่าเมืองค่ะ น่าจะเป็นที่มาของคำว่า นครวัด โดยนครวัดนั้น ตั้งอยู่ใน Angkor Archaeological Park หรือ แหล่งโบราณสถานอังกอร์ ที่เราต้องซื้อตั๋วแบบเดย์พาสเข้าไป โดยพาสอันนี้ครอบคลุม ปราสาทตาพรม และ บายน หรือที่เราเรียกติดปากว่า นครธม ด้วยค่ะ ทั้งหมดนี้ ถูกยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก้ค่ะ

นครวัด หรือ อังกอร์วัด นี้ ได้รับการบันทึกให้เป็นสิ่งปลูกสร้างทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในโลก แบบสถาปัตยกรรมที่เราเห็นจะเป็นแบบฮินดูค่ะ ตอนที่ถูกสร้างโดยพระเจ้าสุริยวรมันที่สอง ในช่วงต้นคริสตศตวรรษที่ 12 ก็เป็นการสร้างเพื่อบูชาเทพวิษณุ แต่ภายหลังปราสาทแห่งนี้ก็กลายเป็นวัดพุทธนะคะ เพียงแต่แบบโครงสร้างสถาปัตยกรรมก็ยังเป็นคติฮินดูเต็มๆ ทั้งเรื่องเขาพระสุเมรุ ประตูทั้งสี่ มีคลองล้อมรอบ มีซุ้มโคปุระ มีมณฎป

นครวัดนั้น ยิ่งใหญ่ตั้งแต่ขนาดพื้นที่ ความละเอียดของงานแกะสลัก โครงสร้างของปราสาททั้งหมด ที่สำคัญคือแรงศรัทธาที่ทำให้สถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่จนเป็นมรดกโลกนี้สำเร็จขึ้นได้ เป็นที่ที่ต้องเอาตัวเองเข้ามาสัมผัส เพราะดูเพียงในรูป ไม่สามารถถ่ายทอดของยิ่งใหญ่ของที่นี่ได้จริงๆ ค่ะ

---

2. ปราสาทตาพรหม (Ta Prohm)

เป็นวัดที่นัทชอบมากที่สุดในบริเวณนี้เลยค่ะ ตาพรหม ตั้งอยู่ประมาณ 1 กม.ทางตะวันออกของนครทม สร้างโดย พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ในสถาปัตยกรรมแบบบายน เป็นอารามหลวงและสถานที่เรียน ที่อุทิศน์ให้กับมารดา

ภายในตัวปราสาทหินแห่งนี้ ก็มีความซับซ้อน และ มีรายละเอียดอันอ่อนช้อยไม่แพ้ที่อื่นค่ะ เพียงแต่หลังจากที่จักรวรรดิขแมร์ล่มสลายไป ด้วยความที่ปราสาทแห่งนี้สร้างโดยไม่ใช้ปูน ทำให้ต้นไม้ใหญ่โตสูงขึ้นทะลุโครงสร้างหินต่างๆ ขึ้นมา กลายเป็นเอกลักษณ์ และความงดงามในอีกรูปแบบหนึ่ง และทุกวันนี้ ทางการก็เลือกที่จะรักษาไว้แบบนี้ค่ะ

หลายครั้ง ตาพรหม จะเป็นที่รู้จักในชื่อวัด Tomb Raider เพราะภาพยนต์ที่นำแสดงโดย แองเจลิน่า โจลี่ เรื่อง Lara Croft : Tomb Raider เคยมาถ่ายค่ะ

---

3. ประตูทางเข้านครธม (Angkor Thom Gate)

การจะเข้าไปชมนครธมนั้น จะต้องผ่านประตู ซึ่งหลักๆ จะใช้ประตูเหนือและประตูใต้ค่ะ แต่นครธมนี้ จริงๆ มี 5 ประตูด้วยกันคือ ประตูทั้งสี่ทิศ และ ประตูผีตามคติฮินดูค่ะ

ตรงประตูฝั่งใต้นั้น นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะได้ผ่านอยู่แล้วค่ะ ซึ่งระหว่างทางเข้าไปจะมีรูปปั้นเรียงเป็นแถว ฝั่งขวาจะเป็นฝั่งเทพ และฝั่งซ้ายเป็นฝั่งอสูร ค่ะ

ส่วนประตูฝั่งเหนือ นัทชอบมากๆ เลย เพราะมันมีความเขียว ดูร่มรื่นและธรรมชาติมากๆ ค่ะ ซุ้มประตูทั้งสองฝั่ง สูงถึง 23 เมตร และมีภาพสลักใบหน้า ซึ่งยังเป็นปริศนาเดียวกับปราสาทบายน ซึ่งเป็นจุดถัดไปค่ะ

---

4. ปราสาทบายน (Bayon Temple)

ปราสาทหลักใจกลางนครธม ซึ่งเป็นวัดประจำรัฐของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7

ตัวปราสาทอย่างเดียว อาจจะไม่ได้ขนาดพื้นที่ใหญ่เท่านครวัด แต่ก็ยังมีความซับซ้อนของผังและความงดงามของงานแกะสลักหิน จุดเด่นของปราสาทแห่งนี้คือส่วนบนของหอที่เป็นรูปหน้าทั้งสี่ทิศ กว่า 30 หอค่ะ ซึ่งทฤษฎีของใบหน้านี้ ทฤษฎีหลักเชื่อว่า เป็นพระพักต์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เนื่องจากใบหน้าคล้ายกับรูปปั้นของพระองค์ แต่บางทฤษฎีก็เชื่อว่าเป็นใบหน้าของพระโพธิสัตว์

สมัยก่อนเราจะสามารถเดินขึ้นไปชั้นบน ซึ่งจะใกล้กับยอดที่มีรูปสลักใบหน้า แต่ตอนนี้ได้ทำการปิดเพื่อความปลอดภัยแต่บูรณะเพิ่มเติมค่ะ

---

5. ปราสาทบาปวน (Baphuon Temple)

เดินข้ามถนนจากปราสาทบายนมาก็เป็นที่ตั้งของปราสาทบาปวน ซึ่งถูกสร้างจำลองภูเขา เป็นปราสาทที่สร้างถวายพระศิวะ ก่อนที่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนมาเป็นวัดพุทธค่ะ การสร้างจะเป็นลักษณะของศิลปะแบบบาปวน เช่นการมีภาพสลักเป็นช่องเล็กๆ ในแนวดิ่ง ถือเป็นอีกปราสาทที่ไม่ได้เหมือนกับทั้ง 3 ที่ที่เราไปมาก่อนหน้านี้ค่ะ

---

6. โตนเลสาบ (Tonle Sap)

โตนเลสาบ คือ ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่อยู่ของความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์​น้ำจืดนานาชนิด มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นหมู่บ้านลอยน้ำหลายหมู่บ้าน จากจุดที่เราลงเรือ ก็จะได้เห็นวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น ทั้งการจับปลา การกระโดดเล่นน้ำของเด็กๆ

ซึ่งที่มาล่องเรือครั้งนี้ ทางแพกเกจของทางโรงแรมอนันตรา อังกอร์ ใช้เป็นเรือใหญ่ที่สบายมากๆ ไฮไลท์ของเราคือการปิคนิค จิบสปาร์คลิ่งไวน์ยามเย็น และชมพระอาทิตย์ตกค่ะ พระอาทิตย์ตกที่นี่สวยมากกกกก ประทับใจมากๆ ค่ะ

---

ร้านอาหารและคาเฟ่

7. Scribe Bar

บาร์แห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณโรงแรม FCC Angkor by Avani ค่ะ ซึ่งโรงแรมแห่งนี้ เคยเป็นสำนักข่าวและแหล่งรวมตัวของชาวต่างชาติที่อาศัยในเสียมเรียบ อาคารโคโลเนียลได้นำมาทำใหม่เป็นโรงแรม และบาร์ตรงนี้ก็ยังคงเป็นแหล่งรวมตัวของคนทุกชาติ เป็นบาร์เอาท์ดอร์ใต้ร่มไม้ใหญ่ ทำค็อกเทลได้มาตรฐานสูง พาเราไปรู้จักกับวัตถุดิบท้องถิ่น และคราฟท์สปิริตนานาชนิดเลยค่ะ

---

8. Footprint Cafe

ที่นี่ถือเป็น Book cafe หรือ คาเฟ่ที่มีการนำหนังสือมาแลกเปลี่ยน และมีหนังสือให้อ่านเยอะทีเดียวค่ะ ภายในตกแต่งด้วยต้นไม้ มีแสงธรรมชาติ มีคนเอาคอมมานั่งทำงานเต็มเลยเพราะบรรยากาศดีมากกก เครื่องดื่มก็มีหลากหลายค่ะ กาแฟดีเลย มีอาหารด้วยนะคะ ซึ่งนัทไม่ได้ลอง แต่ใครหาที่แวะจิบเครื่องดื่ม พูดคุย หรือ มานั่งอ่านหนังสือชิลล์ๆ ก็ต้องที่นี่เลยค่ะ

---

9. The Glasshouse Deli Patisserie

คาเฟ่แนวฝรั่งเศสที่อยู่บริเวณด้านหน้าของโรงแรม Park Hyatt Siem Reap ค่ะ ที่นี่ทำเบเกอรี่เองทุกอย่าง รวมไปถึงไอศครีมก็ทำเองค่ะ มีชุดอาฟเตอร์นูนที และ เมนูอาหารแบบอิ่มๆ เลย

จริงๆ นัทแวะเข้ามาด้วยความน่าทานของขนม แต่ทางร้านบอกว่า มีเชฟคนเกาหลีอยู่ และแนะนำให้ลองเมนูไก่ทอดเกาหลี ซึ่งอร่อยมากกกกก แนะนำมากๆ ค่ะ ดีทั้งไก่ทอดเกาหลี แซนวิชเนื้อบูลโกกิ เลยค่ะ พวกเครื่องดื่ม นอกจากกาแฟแล้ว ยังมีน้ำผักผลไม้สดที่แนะนำมากๆ ค่ะ

---

10. Dialogue Cafe

หากใครจริงจังเรื่องกาแฟหน่อย ก็คงต้องร้านนี้ค่ะ เป็นร้าน specialty coffee เปิดใหม่บรรยากาศดี เมนูบรันช์และเมนูอาหารก็น่าทานมากค่ะ ตอนเย็นด้านบนมี Sky Bar ด้วย ร้านเป็นเอาท์ดอร์นะคะ

---

11. Fellini Restaurant

ร้านอาหารอิตาเลียนโดยเชฟคนท้องถิ่นที่มีประสบการณ์ในครัวอิตาเลียน ซึ่งต้องบอกว่า นอกจากร้านจะบรรยากาศดีแล้ว อาหารคือดีและถูกต้องมากๆ ค่ะ มีทั้งพาสต้า พวก Antipasti ส่วนพิซซ่าคือแป้งดี เครื่องจัดเต็มมาก

---

12. Sugar Palm Restaurant

ร้านอาหารขแมร์ โดยเชฟชาวขแมร์เลยค่ะ ร้านนี้เสิร์ฟเมนูพื้นฐานประจำชาติกัมพูชา และยังมีเมนูที่มากและกว้างขวางกว่าร้านทั่วไปเยอะอยู่ค่ะ Amok ปลาที่นี่ดี, Spicy Sour soup, ปอเปี๊ยะ, ปลาหมึกผัดพริกไทย Kampot ดีค่ะ

---

13. Gelato Lab

ร้านเจลาโตใจกลางเสียมเรียบ ที่ทำสดใหม่ทุกวันด้วยวัตถุดิบธรรมชาติ โดยรสชาติจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ นะคะ มีให้เลือกหลายแนว ดับร้อนได้ดีเลยค่ะ

---

14. Pub Street

ถ้าอ่านจากรีวิวชาวไทย หลายคนจะบอกว่าเหมือนถนนข้าวสาร ซึ่งนัทขอบอกว่าจริงค่ะ!! ถนนคนเดินใจกลางเสียมเรียบนี้ เต็มไปด้วยผับบาร์ คึกคักเสียงดังตลอดแนว แล้วก็จะมีป้ายโฆษณาพวกเบียร์ราคาถูก มีบ่อปลาทำสปาเท้า คือบรรยากาศแบบนั้นเลยค่า แต่มานั่งดริงค์ก็คึกคักดีนะคะ

---

วัดรอบนอก

ที่แยกไว้เป็นวัดรอบนอก เพราะระยะทางจะไกลกว่า นครวัด นครธม ค่ะ ทำให้อาจจะต้องแยกเป็นอีก 1 วัน

15. บันทายศรี (Banteay Srei)

หรือตามภาษาขแมร์อ่านว่า บันเตียสไร ซึ่งแปลว่าป้อมสตรี ปราสาทแห่งนี้รูปสลักที่ละเอียด คมชัดมากกว่าที่อื่นๆ และมีความโดดเด่นตรงที่สร้างด้วยหินทรายสีชมพู ทำให้ดูไม่เหมือนปราสาทอื่นค่ะ บันทายศรีนั้น ตั้งห่างออกมาจากตัวเมืองเสียมเรียบประมาณ 30 กม. หากเที่ยวสามวัดหลักเสร็จช่วงเช้า จะมาที่นี่ช่วงบ่ายต่อก็ได้ค่ะ เดินทางออกมาไกลหน่อย บัตรเข้าชมจะเป็นเดย์พาสอันเดียวกับที่ซื้อเข้านครวัดค่ะ แต่บางคนก็จะเก็บไว้เป็นทริปเดียวกับพนมกุเลน เพราะทางเดียวกัน

---

16. เบ็งเมเลีย (Beng Mealea)

นี่คือปราสาทที่นัทชอบมากที่สุดในเสียมเรียบค่ะ มาที่นี่เหมือนเดินป่า+ชมปราสาท ฟีลคือเหมือนนักสำรวจอินเดียนน่าโจนส์สุดๆ ปราสาทแห่งนี้อาจจะไม่เป็นที่นิยมเท่าฝั่งนครวัดเพราะอยู่ไกลมากๆ ค่ะ ประมาณ 66 กม. ใช้เวลาเดินทางเกือบชั่วโมง แต่ด้วยเหตุผลนี้ ทำให้นัทชอบที่นี่มาก เพราะไม่ค่อยมีคน มีความร่มรื่น เขียวชะอุ่ม

เนื่องจากที่นี่ไม่ได้มีศิลาจารึก แต่สันนิษฐานจากรูปแบบแล้ว นักโบราณคดีคิดว่า เป็นยุคเดียวกับนครวัด ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 อย่างไรก็ตาม ซากปรักหักพังที่เราเห็นนี้ มาจากช่วงสงครามกลางเมืองที่ผ่านมาค่ะ

---

17. กบาลสเปียน (Kbal Sapean)

ที่นี่ก็มีความพีคค่ะ จากคติฮินดูที่เราเห็นทั้งหมดในปราสาทต่างๆ ที่นี่เป็นการแกะหินที่มีน้ำตกไหลผ่าน เป็นศิวลึงค์กว่าพันองค์ เราจะเห็นรูปสลักอยู่ใต้น้ำ แทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นฝีมือคน

กบาลสเปียนนั้น ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาพนมกุเลน ซึ่งเป็นแหล่งที่นำหินไปสร้างปราสาทต่างๆ ด้วยค่ะ ตรงนี้อยู่ไกลเมืองไปอีกเกือบ 50 กม. และต้องเดินเข้าไปประมาณ 2 กม. ค่ะ

---

แหล่งช้อปปิ้งในเมือง

18. Artisan Siem Reap

เป็นเวิร์กช้อปที่ตั้งใจสร้างงานและช่างฝีมือศิลปะขแมร์ค่ะ ถ้าใครทราบประวัติศาสตร์อันหดหู่ของกัมพูชา คือช่วงที่มีสงครามกลางเมืองและเขมรแดง มีคนราวสองล้านคนถูกฆ่า และทำให้ประชากรหายไปกว่า 20% ซึ่งก็ทำให้งานศิลปะและช่างฝีมือสูญหายไปด้วย

ในปี 1992 ที่นี่เลยทำเป็นโรงเรียนและตั้งใจรื้อฟื้นภูมิปัญญางานฝีมือต่างๆ ทั้งการทอผ้า แกะไม้ ตีเหล็ก และมีการจัดแสดงขั้นตอนในการทำให้เราได้เห็น รวมถึงมีร้านขายของที่ระลึกที่เป็นงานแฮนด์เมดจากช่างฝีมือด้วยค่ะ

---

19. Old Market

ตลาดใจกลางเมือง การมาที่นี่อาจจะไม่ได้เน้นแค่ตัวตลาด แต่รอบๆ ยังมีร้านค้าร้านอาหาร น่าเดินค่ะ อยู่ใกล้ๆ ผับสตรีท แต่ถ้าเข้ามาภายในตัวตลาดจริงๆ จะเป็นตลาดสดเลยค่ะ ผักผลไม้วัตถุดิบส่วนใหญ่คล้ายเมืองไทยมากๆ แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่เคยเห็นนะคะ ที่น่าสนใจน่าจะเป็นพวกข้าว เพราะเค้ามีข้าวได้รางวัลเยอะ และมีข้าวหลายชนิดน่าสนใจค่ะ

---

20. Kandal Village (Hap Guan Street)

ถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นของฝากของที่ระลึกงานคราฟท์ต่างๆ มีร้านเบเกอรี่ และ ร้านกาแฟชื่อดังอย่าง Little Red Fox อยู่ด้วยค่ะ

---

21. Satu Concept Store

หากใครจะหาของฝากแนวงานดีไซน์ดูเก๋ๆ แนะนำที่นี่เลยค่ะ ร้านชิคมาก ของฝากก็มีพวกงานคราฟท์ งานดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องถิ่น ซื้อไปประดับบ้านหรือไปใช้งานได้จริง และยังนำความทรงจำดีๆ จากที่นี่กลับไปด้วย

---

ที่เที่ยวในตัวเมือง

ในตัวเมืองเสียมเรียบเองก็เป็นเมืองที่คึกคักแต่ไม่ได้วุ่นวายมาก มีแม่น้ำอยู่ เรียกแกร็ปก็ง่าย นัทยืมจักรยานมาจากโรงแรมก็ง่ายค่ะ

22. Wat Bo

วัดโบ จะตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ ห่างจากผับสตรีทประมาณหนึ่งกิโลค่ะ จริงๆ หลายๆ คาเฟ่ที่แนะนำไปช่วงต้นก็อยู่ในบริเวณนี้ ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านที่ชิลล์และฮิปมากๆ ตัววัดนี้เองเป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ของตัวเมืองเสียมเรียบ (แต่ก็ไม่ได้เก่าแก่เหมือนพวกโบราณสถานเกือบพันปีนะคะ ถือว่าใหม่กว่ามาก) มีภาพเขียนกำแพงและภาพสลักตกแต่งอยู่ และ มีจัดแสดงวัตถุโบราณอยู่ด้านในด้วยค่ะ

---

23. Wat Damnak

วัดดำหนัก เป็นอีกวัดดังในเสียมเรียบค่ะ ไฮไลท์ของที่นี่สำหรับนัทจะเป็นห้องสมุดที่เป็นเสมือนศูนย์กลางการเรียนรู้ ซึ่งมีหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์อาณาจักรขแมร์รวมถึงหนังสือทางศิลปะอยู่เยอะมาก เป็นภาษาอังกฤษด้วยนะคะ บรรยากาศร่มรื่น เงียบสงบมากๆ ถ้าอยู่ยาว น่าจะได้มาบ่อยๆ เลยค่ะ

---

24. Royal Residence

พระตำหนักเวลาที่กษัตริย์กัมพูชาเสด็จเยือนเสียมเรียบค่ะ ซึ่งเราก็ชมได้จากภายนอกเท่านั้น แต่ในบริเวณพระตำหนัก จะมีสวนด้านหน้า และมี ศาลพระองค์เจ็ดองค์จอม (Preah Ang Chek Preah Ang Chorm Shrine) ซึ่งน่าจะเปรียบได้ดั่งศาลหลักเมือง และน่าจะศักดิ์สิทธิ์มากดูจากจำนวนประชาชนที่เข้ามาศักการะบูชาค่ะ

---

25.  Phare Circus

ที่นี่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของทริปนี้ และ อยากแนะนำให้ทุกคนมาชมจริงๆ ค่ะ สนุกมากๆ เพลิดเพลินตลอดการแสดง ไม่น่าเบื่อเลย เส้นเรื่องดีมาก นักดนตรี นักแสดง เอาการแสดงสดอยู่มากๆ!!!!

คณะละคร Phare (พิธีกรอ่านว่า ฟาร์ ค่ะ) ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรที่ช่วยให้สร้างอาชีพ และ ช่วยเด็กในพระตะบองให้ได้ศึกษาศิลปะการแสดง จนมาเป็นการแสดงที่เราจะได้ชมค่ะ เราจะได้เห็นเทคนิคต่างๆ ที่เห็นใน Circus บ่อยๆ ทั้งโหยตัว ต่อตัว ดัดตัว กายกรรมต่างๆ แต่การแสดงนี้ถือว่า โมเดิร์น พลอตเรื่องร่วมสมัย เข้าใจง่าย รู้สึกมีส่วนร่วมค่ะ ไม่แปลกใจว่าทำไมเต็มตลอด โรงละครอยู่นอกตัวเมืองนิดหน่อย แต่เดินทางแป้ปเดียวค่ะ ใช้สามล้อได้ค่ะ บัตรราคาเริ่มต้น 18USD ค่ะ

---

ที่พักในเสียมเรียบ

ในเสียมเรียบนั้นมีที่พักทุกแบบทุกสไตล์เลยค่ะ ตั้งแต่โฮสเทล โรงแรม บูทีคโฮเทล ไปจนถึงโรงแรมหรูแบรนด์ระดับโลกที่พากันมาเปิดเยอะมาก ซึ่งนัทเพิ่งมีโอกาสไปพักมา 3 ที่ ดีมากๆๆๆ ทั้ง 3 ที่เลยค่ะ แต่ละที่มีจุดเด่นและสไตล์ที่แตกต่างกันไปค่ะ

Anantara Angkor Resort

โรงแรมเครืออนันตราแห่งนี้ เป็นรีสอร์ทที่อยู่ห่างจากทุกอย่างเพียง 10-15 นาที ใกล้สนามบิน เข้าเมืองง่าย ไปนครวัดง่าย เดินทางสะดวกมากค่ะ ภายในรีสอร์ทให้ความรู้สึกเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย เหมือนหลุดมาอีกโลกเลยค่ะ แม้จะมีกลิ่นอายขแมร์แต่การตกแต่งที่นี่ก็มีความโมเดิร์นสวยงามเลยค่ะ ไฮไลท์ของที่นี่คือสปาที่นวดดีมากกกก อยากให้มาลองค่ะ

อ่านรีวิวฉบับเต็ม >> คลิ๊กที่นี่

---

Park Hyatt Siem Reap

โรงแรมระดับ luxury จากเครือไฮแอท ที่นี่เป็นโรงแรมแห่งแรกที่ Bill Bensley ออกแบบค่ะ ด้านในสวยทุกมุมเลย อยู่ใจกลางเมือง เดินหรือปั่นจักรยานเที่ยวเมืองเสียมเรียบได้ค่ะ บริการดีมากๆ อาหารอร่อยทั้งอาหารขแมร์และสากล มีคาเฟ่ด้านหน้า ซึ่งอบเบเกอรี่และทำไอศครีมโฮมเมดเอง ทำให้ไลน์อาหารเช้าดีเลยค่ะ มีสระว่ายน้ำสองสระ ไฮไลท์อีกอย่างคือตัวโปรแกรม Experience ของทางโรงแรม ซึ่งนัทได้ไปชมการทำ Nam Banh Chok หรือขนมจีน ที่ทำสดๆ เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกเลยค่ะ เชฟที่นี่น่ารักมากๆ

อ่านรีวิวฉบับเต็ม >> คลิ๊กที่นี่

---

FCC Angkor by Avani

จากอาคารโคโลเนียลดั้งเดิมที่เป็นแหล่งนัดพบของชาวต่างชาติในเสียมเรียบ สู่โรงแรมใจกลางเมืองที่ทำให้ทริปนครวัดฮิปขึ้นมาอีกหลายเท่า! นัทชอบมากที่นอกจากจะมีกลิ่นอายโคโลเนียลแล้ว ยังทรอปิคอล แบบเขียวชะอุ่มมากๆ โรงแรม FCC Angkor by Avani โลเคชั่นเรียกว่าอยู่ใจกลางเมือง แต่บรรยากาศสุดแสนจะสงบ

ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ Scribe Bar ที่ทำค็อกเทลได้มาตรฐานสูง พาเราไปรู้จักกับวัตถุดิบท้องถิ่น และคราฟท์สปิริตนานาชนิด ห้องอาหารที่นี่ยังมีอีเวนท์และบรันช์เรื่อยๆ ทำให้เหมาะกับทริปวันหยุดยาวมากๆ ค่ะ

อ่านรีวิวฉบับเต็ม >> คลิ๊กที่นี่

---

หากชอบรีวิว อย่าลืมกดไลค์เพจ และ ติดตามไอจี @eatchillwander ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า

 

---

ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com