เที่ยว กำแพงเมืองจีน ด้วยตัวเอง : วิธีการเดินทางไปด่าน Badaling ด้วยรถไฟความเร็วสูง ทริปครึ่งวันง่ายๆ

“กำแพงเมืองจีน” (The Great Wall of China) ถือเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่เรามาเห็นกี่ครั้งก็ต้องทึ่ง วันนี้ เราจะพาไปเที่ยว กำแพงเมืองจีน ด้วยตัวเองจากปักกิ่ง โดยไปกันที่ ด่าน Badaling ซึ่งด่านที่เดินทางง่ายที่สุด ใกล้ปักกิ่งที่สุด และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบที่สุด สามารถเดินทางไปเองได้ง่ายๆ มีเวลาแค่ครึ่งวันก็ไปได้ค่ะ


เที่ยวกำแพงเมืองจีน มีด่านไหนบ้าง?

จริงๆ แล้วกำแพงเมืองจีนทั้งหมดนั้น มีความยาวกว่าสองหมื่นกิโลเมตร เลาะไปตามทะเลทราย เทือกเขาต่างๆ จนไปจบที่ทะเล ทอดผ่านสิบกว่ามณฑลในประเทศจีนเลยทีเดียว โดยส่วนของกำแพงเมืองจีนที่เป็นที่นิยมไปชมมากที่สุดนั้น จะอยู่ในกรุงปักกิ่ง ซึ่งก็มีหลายด่านให้ไปเลือกชม ได้แก่

– ด่าน Mutianyu ก็เป็นอีกด่านที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ มีการบูรณะเรียบร้อย แต่ต้องนั่งบัสไป หรือถ้าใครกลัวหาบัสไม่เจอ ก็ซื้อทัวร์ 1 วันได้ค่ะ เค้าพาไปแวะเมือง Gubei ที่สร้างแบบเมืองน้ำโบราณสวยงามมากๆ นัทเคยไปเช่นกัน ทางไปซื้อทัวร์ >> คลิ๊กที่นี่

ตอนนั้นนัทก็ไปกับทัวร์ ต้องไปทั้งวันเป็นเดย์ทริปค่ะ

ด่าน Mutianyu ที่นัทไปมาเมื่อเกือบสิบปีก่อน

– ส่วนด่านอื่นๆ ที่นักท่องเที่ยวน้อยลงได้แก่ Simatai, Jinshanling ใครที่กลัวเจอคนเยอะจะนิยมไปที่นี่ค่ะ

– และมีด่านที่ทิ้งไว้เป็นซากโบราณสถาน ไม่ได้มีการบูรณะ เป็นฟีลเดินป่า แบบดิบๆ เลย (แต่มีโอกาสนัทก็อยากไปนะ) ได้แก่ Jiankou, Huanghuacheng

ในหนึ่งด่าน หรือ หนึ่งเซคชั่นนั้น เรามักจะได้เดินกันประมาณ 1-2 กม. เท่านั้น แค่เห็นแค่นี้ก็ทึ่งแล้ว แต่ยังไม่ได้เศษเสี้ยวของความยิ่งใหญ่ทั้งหมดเลยค่ะ


วิธีการเดินทางไป กำแพงเมืองจีน ด่านปาต้าหลิง / Badaling ด้วยตัวเอง

ด่าน Badaling (อ่านตามพินยินว่า ปาต๋าหลิ่ง แต่คนไทยนิยมเรียก ปาต้าหลิง) เป็นด่านที่ใกล้เมืองปักกิ่งมากที่สุด มีการบูรณะ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ และเดินทางง่ายที่สุด ด้วยรถไฟความเร็วสูง ที่วิ่งระยะทาง 60 กม. ในเวลาประมาณ 20 นาทีนิดๆ เท่านั้น

ซึ่งนัทว่า การนั่งรถไฟความเร็วสูง นี่ก็เป็นอีกประสบการณ์ที่เจ๋งมาก ยิ่งถ้าคิดว่า ปกติเวลาเราจะไปไหนในโลก ถ้าต้องไป 60 กม. คงต้องใช้เวลาเกือบชั่วโมง ที่สำคัญ ค่าตั๋วไปกลับแค่สองร้อยกว่าบาทเองค่ะ

ด่านนี้เที่ยวง่าย เพราะมีป้ายภาษาอังกฤษอยู่ตลอดทาง แต่ด้วยความไปง่าย ว่ากันว่าด่านนี้จะมีนักท่องเที่ยวเยอะที่สุด เวลาที่มีคนถ่ายรูปมาแล้วมีคนเต็มกำแพงก็คือด่านนี้เลย ส่วนตัวนัทไปตอนบ่ายสอง กลางเดือนกันยา เห็นคนสวนกลับกันหมดแล้ว คือมันก็ยังมีคนนะคะ แต่มันก็ไม่ได้ขั้นแย่งเที่ยวหรือต่อคิว อย่างตอนซื้อตั๋ว หรือ ขึ้นกระเช้า นัทก็ไม่ได้ต่อคิวเลย

รถไฟความเร็วสูงที่มาสถานี Badaling Great Wall จะมีรถไฟออกจากสถานี Qinghe ใช้เวลาประมาณ ~20 นาที กับ สถานี Beijing North Station ใช้เวลาประมาณ ~30 นาที

แม้รถไฟความเร็วสูงจะใช้เวลาแค่ 20-30 นาที แต่ตัวสถานี Qinghe หรือ Beijing North จะอยู่ทางเหนือของตัวเมืองปักกิ่ง เลยสนามรังนกไปอีก ถ้ามาจากไหนเมืองต้องเผื่อเวลาเดินทางมาสถานีหน่อย ขึ้นอยู่กลับว่ามาจากตรงไหนของปักกิ่ง แต่อาจจะใช้เวลา 30-60 นาทีเลยค่ะ

พอนั่งรถไฟมาถึงก็เดินออกมาซื้อตั๋วได้เลย ซึ่งมีวิธีการวางแผนการเดินเที่ยวหลายออปชั่น นัทเขียนรายละเอียดไว้ข้างล่างนะคะ


วิธีการขึ้นรถไฟความเร็วสูงที่เมืองจีน

หากใครไม่เคยขึ้น High-Speed Train ที่เมืองจีน วิธีจะประมาณนี้ค่ะ

– นัทจองผ่าน Trip โดยตอนเลือก กดเป็น Beijing – Badaling Great Wall ซึ่งมันจะมีรถไฟออกจากสถานี Qinghe (~20 นาที) กับ สถานี Beijing North Station (~30 นาที)

ทางไปจองตั๋วรถไฟ >> คลิ๊กที่นี่

– ตอนจองจะใส่ชื่อ+เลขพาสพอร์ทไปแล้ว และพาสพอร์ทคือตั๋วเดินทางของเรา ต้องเอาพาสพอร์ทติดตัวไปนะคะ!!! ไม่มีตั๋วเป็นกระดาษนะ ต่อให้ซื้อที่ตู้ก็ไม่มี

– ในแอพจะมีบอกขบวนรถ เลขที่นั่ง ชานชาลา — ที่สถานีก็มีป้ายชัดเจน

– เท่าที่นัทไปมา สถานีรถไฟเค้าจะเช็คประมาณ 3 รอบคือ หนึ่ง ทางเข้าสถานีรถไฟ ส่วนใหญ่จะมีการสแกนกระเป๋าก่อนเข้าสถานี, รอบที่สอง จะมีจุดเช็คว่าเรามีตั๋วเดินทางมั้น เพราะเค้าให้เฉพาะคนที่มีตั๋วเดินทางเข้าในสถานี ซึ่งจุดนี้ คนจีนจะใช้บัตรประชาชนแตะเข้าได้เลย แต่พวกเรามักจะต้องไปโต๊ะที่มีเจ้าหน้าที่นั่งอยู่ให้เค้าคีย์เลขพาสพอร์ทเข้าไป

– สุดท้ายคือ ก่อนลงชานชาลา อันนี้เปิดหน้าพาสพอร์ทสแกนได้เลย พาสพอร์ทคือตั๋วของเรา ซึ่งตรงนี้ เค้ามีเวลาปิดก่อนรถไฟออกนะคะ เหมือนจะครึ่งเครื่องแล้วปิดเกทเลย

– สถานี Qinghe จะปิดไม่ให้ลงชานชาลา 3 นาทีก่อนรถไฟออก ส่วนสถานี Badaling จะปิด 12 นาทีก่อนรถไฟออก ** เผื่อเวลากลับมาที่สถานีด้วยนะคะ!!!

– ตอนนัทกดหาตั๋วประมาณ 1 วีคก่อนไป มันเต็มหมดเลย แต่พอวันจริงมาลองกดดู มีตั๋วว่างแทบจะทุกเวลาเลยค่ะ ถ้าใครจองก่อนได้ก็จองก่อนนะคะ แต่ถ้าใครกดดูแล้วเต็ม อย่าเพิ่งหมดหวัง ลองดูใกล้ๆ อีกทีค่ะ

ทางไปจองตั๋วรถไฟ >> คลิ๊กที่นี่


ค่าเข้า / ค่าใช้จ่าย กำแพงเมืองจีน

– ค่าตั๋วเข้ากำแพงเมืองจีน ราคา 40 หยวน * อันนี้ทุกคนต้องซื้อค่ะ แม้จะซื้อตั๋วกระเช้าแล้วก็ต้องซื้อตั๋วเข้ากำแพงเมืองจีนด้วยค่ะ

– ค่ากระเช้า (Cable Car) ขาเดียว 100 หยวน / ไปกลับ 140 หยวน

– ส่วนค่ารถไฟ ขาไปนัทจ่าย 94 บาท ขากลับ 102 บาทค่ะ มีค่าจองเที่ยวละ 48 บาท ตกไม่ถึง 300 บาทต่อคนค่ะ


แผนการเดินทาง เที่ยวกำแพงเมืองจีนด่าน Badaling

ของนัทจะเป็นการเที่ยวป้อมฝั่งเหนือนะคะ จริงๆ ด่านนี้มีป้อมฝั่งใต้ด้วย และ มีกระเช้าไปป้อมฝั่งใต้ด้วย แต่มันเดินจากสถานีไปไกลกว่าค่ะ

ออปชั่น 1 : แบบเดียวกับที่นัททำคือ จากสถานีรถไฟ ขึ้นกระเช้าแบบขาเดียว กระเช้าจะพาเราขึ้นไประหว่างป้อม 7-8 จากนั้น ก็เดินลงมาที่ป้อม 1 จากทางเข้าตรงป้อม 1 ก็เดินกลับไปสถานีรถไฟ ออกจากปักกิ่งบ่ายสอง กลับถึงปักกิ่งหกโมงค่ะ เดิน+ถ่ายรูปประมาณ 2 ชม. ระยะทางที่ต้องเดินทั้งลูปไปกลับสถานีรถไฟทั้งหมด 2.4 กม.

ออปชั่น 2 : ซื้อตั๋วกระเช้าไปกลับ ถ้าแบบนี้ คนจะนิยมเดินไปถึงตรงจุดสูงสุดของด่านนี้ คือตรงป้อม 8 (บันไดชัน ระยะทางจากสถานีกระเช้า 500 เมตร) แล้วดูวิวแถวป้อม 6-7-8 แล้วกลับทางกระเช้าเหมือนเดิมค่ะ

ออปชั่น 3 : ไม่ขึ้นกระเช้าเลย สำหรับสายประหยัดค่ะ เพราะค่าเข้ากำแพงแค่ 40 หยวน แต่ค่ากระเช้าหนึ่งขามัน 100 หยวนแล้ว — จากทางเข้า เดินชมช่วงป้อม 1-3 ก็มีมุมถ่ายรูปที่โอเคแล้วนะคะ แล้วก็กลับทางเดิม ส่วนสาย Hiking/Trekking เค้าก็จะเดินจากนี่ไปออกป้อม 12 เลย เป็นกิจกรรมเดินเขา สามารถเรียกว่า Climb The Great Wall ของจริง เพราะช่วงป้อม 4-8 มีช่วงที่บันไดชันมาก แต่ผู้สูงอายุชาวจีนเค้าเดินขึ้นหลายคนเลยนะ นัทเดินสวนลงมายังขาสั่นแทน

ออปชั่น 4 : ตรงป้อม 4 จะมีสถานี Pulley เป็นรถราง ลักษณะรางเหมือนรางรถไฟเหาะเด็ก แต่ขับช้าๆ เลยค่ะ ตั๋วไปกลับ 100 หยวน เชื่อมจากป้อม 4 ไปทางออกสวนหมี ซึ่งเป็นทางออกที่มีบัสสาย 877 จากปักกิ่ง ตรงนี้ออปชั่นที่ทำได้คือ ขึ้นกระเช้ามาแบบนัท มาถึงสถานี Pulley ที่ป้อม 4 ก็นั่งลงไปได้ จากตรงนี้ ถ้าจะกลับมาขึ้นรถไฟต้องนั่งแท็กซี่หรือบัสกลับมาสถานีรถไฟ หรือจะนั่งบัสสาย 877 กลับปักกิ่งเลยก็ได้ค่ะ ส่วนถ้าใครนั่งบัสสาย 877 มาจากปักกิ่งมาลงตรงนี้ ก็ขึ้น Pulley มาป้อม 4 ได้เช่นกันค่ะ

และเช่นกัน ถ้าขึ้นกระเช้ามา แล้วไม่อยากเดินลงมาป้อม 1 แบบนัท จะเดินขึ้นไปออกตรงป้อม 12 ก็ได้ เป็นทางออกตรงสวนหมีเช่นกันค่ะ

แต่เอาเป็นว่า ถ้าจะมาด้วยรถไฟความเร็วสูง ออปชั่น 4 จะไม่ค่อยเวิร์คค่ะ


ไปเที่ยวกำแพงเมืองจีนกันเลย!

ตามมาชมภาพบรรยากาศกันเลยนะคะ จะได้ประกอบการตัดสินใจว่าอยากไปป้อมไหนบ้าง

จากสถานีรถไฟ เดินออกมาโดยหันหลังให้ตัวสถานี มองไปทางขวาจะเห็นกระเช้าลิบๆ มุ่งหน้าไปได้เลยค่ะ เคาเตอร์ซื้อตั๋วขึ้นกระเช้าและบัตรเข้าชมจะมีตั้งแต่ตรงสถานีรถไฟ และตรงทางเข้ากระเช้าซื้อตรงไหนก็ได้ค่ะ ทางขึ้นกระเช้าป้อมฝั่งเหนือจะอยู่ประมาณ 150 เมตรจากตัวสถานีรถไฟ

แต่ถ้าไปทางซ้ายจะเป็นการเดินไปทางเข้าตรงป้อมหนึ่งโดยไม่ขึ้นกระเช้า ระยะทาง 350 เมตรจากสถานีรถไฟ

กระเช้าเร็วมาก เหมือนวาร์ปมา ยังถ่ายรูปไม่ค่อยทันเลยค่ะ กระเช้าจะพาเราขึ้นไปถึงระหว่างป้อม 7 กับ 8 ซึ่งป้อม 8 เป็นจุดที่สูงที่สุดของด่าน Badaling

วิวจากข้างบนคือสุดลูกหูลูกตาจริงๆ ค่ะ

จริงๆ ตลอดทาง จะมีทางเดินสร้างใหม่ขนานตัวกำแพง ซึ่งไม่ชันมากค่ะ ส่วนนัทเดินบนกำแพงตลอด มีบางระยะที่คนที่ไปด้วยแล้วกลัวความสูงต้องเกาะราวค่อยๆ ลง

เราเดินลงมาเรื่อยๆ จนถึงป้อม 4 จะเป็นป้อมที่มีรถ Pulley ให้บริการ แต่ต้องไปออกอีกทางออกที่ไม่ใช่ตรงสถานีรถไฟค่ะ

การจะมาถึงจุดนี้ ถ้าเดินมาเองจากป้อม 1 มันขึ้นค่อนข้างสูงนะคะ แต่ถ้ามาไม่ถึง ก็จะไม่เห็นวิวนี้เลย

มองย้อนกลับไป เราเดินลงสบายๆ ถ้าเดินขึ้นคงต้องเตรียมมาเป็นรองเท้าสำหรับขึ้นเขา

เดินไล่ลงมาเรื่อยๆ ใกล้ถึงป้อม 1 แล้วค่ะ ถามว่าชันมั้ย จะต้องบอกว่า มีช่วงที่บันไดชัน ซึ่งนัทเดินลงปกติสบายๆ แต่มีน้องที่กลัวความสูงเค้าต้องค่อยๆ เกาะราวลงมาค่ะ เค้าบอกว่าขาสั่นอยู่

ภาพด้านล่างนี่คือใกล้ป้อม 1-2 มากๆ ถ้าใครไม่ขึ้นกระเช้า และมีเวลาจำกัด จะเข้ามาแค่ตรงนี้ก็ได้นะคะ ยังได้วิวนี้อยู่ค่ะ

ลานกว้างๆ นี่จะเป็นจุดชมวิวที่อยู่ติดกับทางเข้าตรงป้อม 1 เลยค่ะ จะเห็นได้ว่า ถ้าจะเดินไปถึงป้อม 4-5-6 คือขาลากอยู่ แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นไปไม่ได้ และเชื่อว่าสายเดินขึ้นเขาคือไปได้สบายๆ

นี่คือจุดจำหน่ายตั๋วตรงป้อม 1 สำหรับคนที่ไม่ขึ้นกระเช้าค่ะ

นัทพยายามหาข้อมูลแต่นัทก็แอบงงว่าสรุปมันปิดกี่โมงกันแน่ รู้แค่ว่า อยู่ได้ถึงห้าโมงกว่าแน่นอน ยังไม่มีใครไล่ ยังมีคนเดินกันอยู่ทุกป้อม แต่เข้าใจว่าปิดจำหน่ายตั๋วและ last entry ตอน 16.00/16.30 แล้วแต่ฤดู เพราะนัทเดินลงมาคือปิดจำหน่ายตั๋วแล้ว

ทั้งนี้ทั้งนั้น ด่านนี้เค้ามี Night tour ให้มาชมตอนกลางคืนได้ด้วย แต่ต้องซื้อตั๋วเข้าอีกทีหลัง 18.30 น.

ที่เมืองจีนเค้าจะมีไอศครีมรูปสถานที่ท่องเที่ยวทุกที่เลยค่ะ น่ารักมาก ส่วนแถวๆ ทางเข้าป้อมหนึ่ง ก็มีร้านอาหารอยู่นะคะ มีพวกเคเอฟซี, สตาร์บัคส์ ด้วย

แม้ครั้งนี้จะมาเป็นครั้งที่สอง แต่นัทจะบอกว่า ครั้งที่แล้วก็ว่ามันยิ่งใหญ่แล้วนะ พอได้มาเห็นอีกครั้งก็คือยังรู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่และน่าทึ่งจริงๆ ความตื่นเต้นประทับใจไม่ลดลงเลย

จากป้อม 1 ก็เดินวนกลับมาที่สถานีค่ะ ทั้งหมดนี้ ถือว่าสบายๆ นะคะ หวังว่าจะมีประโยชน์สำหรับคนที่อยากไปชมกำแพงเมืองจีนด้วยตัวเองนะคะ


ทางไปจองตั๋วรถไฟไป Badaling >> คลิ๊กที่นี่

สำหรับใครที่หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกอยู่ก็ไปเทียบราคาได้ที่ Trip.com นะคะ

หากชอบรีวิว อย่าลืมกดไลค์เพจ และ ติดตามไอจี @eatchillwander ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า



ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com

error: