[รีวิว] อุ้มโคอาล่า เล่นกับจิงโจ้ ที่ Lone Pine Koala Sanctuary บริสเบน ออสเตรเลีย!

เมื่อนึกถึงออสเตรเลียแล้ว หนึ่งสิ่งที่หลายคนต้องนึงถึง ก็คือ โคอาล่า นั่นเองค่ะ โคอาล่าเป็นสัตว์ประจำถิ่นของประเทศและทวีปออสเตรเลีย ทำให้หลายคน อยากมาชมความน่ารักและกอดสัตว์เจ้าถิ่นนี้กันซักครั้ง แต่ต้องเข้าใจก่อนว่า ไม่ใช่ทุกรัฐที่อนุญาตให้เราอุ้มโคอาล่าได้ และหนึ่งในที่ที่ดังที่สุด ด้วยความที่เป็นศูนย์อนุรักษ์โคอาล่าที่แรกและที่ใหญ่ที่สุดในโลก นั่นคือ Lone Pine Koala Sanctuary (ศูนย์อนุรักษ์โคอาล่าโลนไพน์) เมืองบริสเบน รัฐควีนส์แลนด์ นั่นเองค่ะ

ที่ Lone Pine Koala Sanctuary (ศูนย์อนุรักษ์โคอาล่าโลนไพน์) นั้น ดูแลโคอาล่าอยู่กว่าสองร้อยตัว นอกจากนี้ ยังมีสัตว์ประจำถิ่นออสเตรเลียอื่นๆ มีสวนจิงโจ้ที่เราสามารถเดินเล่นกับจิงโจ้ได้ ถือเป็นศูนย์อนุรักษ์+สวนสัตว์เล็กๆ ที่บรรยากาศธรรมชาติ จัดการดี สะอาด กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวที่ห้ามพลาดในบริสเบนเลย

ณ วันที่นัทเขียนบทความนี้ รัฐที่มีกม. ห้ามอุ้มโคอาล่า ได้แก่ New South Wales, Victoria, Tasmania และ Northern Territory ค่ะ นั่นหมายความว่า หากคุณอยากมีประสบการณ์อุ้มโคอาล่า อย่างถูกกม. ต้องไปที่ Queensland, Western Australia และ South Australia ซึ่งมักจะเป็นอุทยาน ฟาร์ม หรือ ศูนย์อนุรักษ์ค่ะ

ทางไปซื้อบัตรเข้า Lone Pine Koala Sanctuary >> คลิ๊กที่นี่


วิธีการเดินทาง

การเดินทางมาที่นี่มีหลักๆ 3 ทางค่ะ

1. บัสหมายเลข 430 จาก Queen Street Station ใจกลางเมือง หรือ 445 จาก Adelaide Street ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เป็นวิธีที่ประหยัดที่สุด แต่รอค่อนข้างนานค่ะ

2. โดยรถส่วนตัวหรืออูเบอร์ จากใจกลางบริสเบน ใช้เวลา 20 นาที มีที่จอดรถด้านหน้าค่ะ

3. โดยเรือ River Cruise ใช้เวลา 75 นาที แต่ใครมีเวลาคือแนะนำสุด เพราะแม่น้ำที่ผ่านบริสเบน โค้งน้ำสวยมากกกก ลองไปดูในแผนที่จะเห็นเป็นแม่น้ำที่คดเคี้ยว และเรือจะออกจากในเมือง เราจะเห็นวิวเมืองจากแม่น้ำ ค่อยๆ ผ่านเข้ามาเป็นป่าและธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ เรือจะมาจอดที่ท่าตรงทางเข้าศูนย์อนุรักษ์เลย เรือออกเวลา 9 โมง จาก Cultural Centre Pontoon และ ออกจากศูนย์อนุรักษ์เพื่อกลับเข้าเมืองเวลา 13.30 น. ซึ่งเวลากำลังพอดีเลยค่ะ — แพกเกจเดินทางด้วยเรือแบบไปกลับ+บัตรเข้าชม Lone Pine Koala Sanctuary >> ซื้อที่ลิงค์นี้ค่ะ


วิธีการจองและซื้อบัตร

แนะนำให้ซื้อบัตรล่วงหน้า เพราะสามารถสแกนเข้าได้เลยค่ะ นัทซื้อผ่าน Klook.com เหมือนเดิม เพราะง่าย โชว์ค่าเงินเป็นเงินบาทเลย ไม่ต้องโดนค่าแลกเปลี่ยน ส่วนใหญ่ราคาจะถูกกว่า มีช่องทางการจ่ายเงินหลากหลาย สะดวก มีโค้ดส่วนลดเรื่อยๆ และยังได้พ๊อยท์ไว้ลดครั้งถัดไป นัทก็เอาพ๊อยท์ลดพวกตั๋วหรือทัวร์ได้ทั่วโลกเลย

บน Klook.com จะเป็นแค่ค่าตั๋วเข้าศูนย์อนุรักษ์นะคะ จากนั้นก็จะไปจองอุ้มโคอาล่าต่างหากบนเว็ปค่ะ แต่หากไม่จองก็วอล์กอินได้ แต่เสี่ยงเต็มเช่นกัน อย่างวันที่นัทไป คนที่วอล์กอินจะไม่ได้อุ้มโคอาล่าค่ะ เพราะเค้าจำกัดปริมาณคน และ จำกัดเวลาด้วยค่ะ จัดการดีมากๆ เพื่อความปลอดภัยของโคอาล่าเองด้วย

ทางไปซื้อบัตรเข้า Lone Pine Koala Sanctuary >> คลิ๊กที่นี่

Lone Pine Koala Sanctuary เปิดทุกวัน เวลา 9.00 – 17.00 น. ส่วนกิจกรรมต่างๆ จะมีตารางอยู่ในเว็ปนะคะ


มาชม Lone Pine Koala Sanctuary กันเลยค่ะ

สำหรับนัท ไฮไลท์ของการมาที่นี่ จะมีอยู่หลักๆ สามอย่าง คือ โซนสวนที่ให้จิงโจ้อยู่อย่างอิสระ โซนป่าโคอาล่า และ พวกสัตว์ท้องถิ่นที่พบที่ออสเตรเลียเท่านั้นค่ะ

โซนป่าโคอาล่าน่าจะกินพื้นที่เยอะที่สุดของศูนย์อนุรักษ์เลย คือเต็มไปหมด — อย่างทริปนี้เองนัทเจอโคอาล่าป่าตามธรรมชาติมาแล้วนะคะ แต่พอมาดูที่นี่ จะเห็นน้องๆ ในอริยาบทที่หลากหลายกว่า เพราะจำนวนเยอะ มีทั้งตัวที่แอคทีฟและไม่แอคทีฟ (ที่นัทเห็นตามธรรมชาติคือกินนอนอย่างเดียวเลย) ที่นี่จะเห็นน้องกระโดดข้างต้นยูคาลิปตัสบ้าง เลี้ยงลูกบ้าง นอนกอดกัน น่ารักไปหมด ตรงที่เป็นโซนทานอาหารก็ล้อมรอบไปด้วยป่าโคอาล่าค่ะ เวลาเดินรอบๆ จะได้กลิ่นยูคาลิปตัสเบาๆ ตลอดเลย

โคอาล่า ถือเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแบบเลี้ยงลูกในกระเป๋าหน้าท้อง (Marsupial) ทางชีววิทยา คือใกล้กับตระกูลจิงโจ้มากกว่าหมีนะคะ น้องไม่ได้มีความเป็นหมีเลย เป็นเรื่องที่เคยเข้าใจผิดกันค่อนข้างเยอะทั่วโลกเลยค่ะ

ส่วนการอุ้มโคอาล่านั้น ตัวนึงจะถูกเอาออกมาแค่แป้ปเดียวเลยค่ะ และเราต้องยืนนิ่ง ห้ามขยับเลย ต้องทำตัวเป็นต้นยูคาลิปตัส และมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิดเลยค่ะ หลายคนบอกนัทว่า โคอาล่ามันแข็งๆ แต่จริงๆ มันก็นิ่มนะคะ น่ารักมากจริงๆ

การอุ้มโคอาล่า ต้องจองเป็น Hold a Koala นะคะ ถ้า Touch a Koala เค้าจะให้แค่ลูบๆ ใดๆ คือ เค้าจำกัดคนและเวลาจริงจังมาก เพื่อความปลอดภัยของน้องค่ะ ต้องจองแยกจากบัตรเข้าสวนสัตว์นะคะ >> https://lonepinekoalasanctuary.com/photo-opportunities/

โซนต่อไปคือ สวนที่ปล่อยสัตว์อิสระค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นจิงโจ้ — จริงๆ ทริปนี้เจอจิงโจ้เยอะมากกกก และ ออสเตรเลียเอง ก็ค่อนข้างจะมีจิงโจ้ล้นประเทศ ซึ่งถ้าเป็นจิงโจ้ที่เจอตามธรรมชาติ ไม่ควรเข้าใกล้หรือไปยุ่งกับเค้าเลยค่ะ — แต่จิงโจ้ที่นี่จะค่อนข้างชินคน และสามารถให้อาหารได้นะคะ อาหารถุงละ 2AUD

สัตว์ประจำถิ่นออสเตรเลียนี่ก็มีน่าสนใจหลายตัวเลยค่ะ แล้วเต็มไปด้วยพวกสัตว์นักล่าและหน้าตาน่ารักมากกกก เช่น เจ้า Tasmanian Devil เป็นสัตว์ตระกูล Marsupial ที่เป็นนักล่าเป็นสัตว์กินเนื้อที่ตัวใหญ่ที่สุดในตระกูลนี้ ซึ่งตอนนัทไปคือนอนอาบแดดกันแบบน่ารักมากกกก

เจ้า Platypus หรือ ตุ่นปากเป็ด หนึ่งในสัตว์ที่งงๆ จะเป็นนากก็ไม่ใช่ บีเวอร์ก็ไม่เชิง แล้วปากเหมือนเป็ด ว่ายน้ำได้ เดินบนบกได้ มือมีแผงกางออก เป็นสัตว์มีพิษ และ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไม่กี่ชนิดที่ออกลูกเป็นไข่ค่ะ คือวิวัฒนาการแปลกมาก

อีกตัวคือเจ้า Dingo ซึ่งหน้าตาเหมือนน้องหมาธรรมดามาก แต่เป็นอีกตัวที่เค้าบอกว่าเป็นนักล่าที่ดุร้าย เป็นกึ่งสุนัขและหมาป่าค่ะ ตอนนัทไปก็คือนอนอาบแดดนิ่งมาก

นอกจากนี้ ก็จะมีสัตว์อื่นๆ พวกวอมแบต นกอีมู สัตว์เลื้อยคลาน กบ จระเข้ งู ภายในสวนสัตว์เองก็จะมีนกตามธรรมชาติ อยู่ค่ะ

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกบริเวณ Lone Pine Sanctuary จะมีร้านอาหารที่จำหน่ายอาหารฟาสท์ฟู้ดง่ายๆ พวกเบอร์เกอร์ นักเก็ต สลัด แซนด์วิช อยู่ภายใน มีร้านขายของที่ระลึก ส่วนด้านหน้าจะมีคาเฟ่ ซึ่งมีที่นั่งริมน้ำ บรรยากาศดีมากๆ ค่ะ

ทางไปซื้อบัตรเข้า Lone Pine Koala Sanctuary >> คลิ๊กที่นี่


หวังว่าทุกคนจะสนุกกับการเที่ยวออสเตรเลียนะคะ อ่านรีวิวที่อื่นๆ ใน ออสเตรเลีย ติดตามเร็วๆ นี้ค่ะ

หากชอบรีวิว อย่าลืมกดไลค์เพจ และ ติดตามไอจี @eatchillwander ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า

 




ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com

error: