พาเดินชม Awakening Bangkok 2020 งานศิลปะแสงไฟ ที่ปลุกกรุงเทพฯ ให้ตื่นอีกครั้ง

admin December 12, 2020

จะมีซักกี่ครั้งที่เราจะมีโอกาสได้เดินสำรวจย่านชุมชนในกรุงเทพฯ กันยามค่ำคืน! พร้อมโอกาสเสพงานศิลปะแสงไฟ Light Installation เกือบ 40 จุดทั่วย่านเจริญกรุง – ตลาดน้อย วันนี้ Eat Chill Wander อยู่ที่งาน Awakening Bangkok 2020 ที่ทำให้เราสนุก ตื่นเต้นไปกับการ “เดิน” เที่ยวกรุงเทพฯ ทั้งคืนเลย

ปีนี้ Awakening Bangkok 2020 มาในคอนเซปท์ RE/WIND/FAST/FORWARD ที่จะพาทุกคนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นเพื่อรำลึก คิดพิเคราะห์ และตรึกตรอง เพื่อที่จะพาตัวเองก้าวไปข้างหน้าได้ไกลกว่าเดิม

งานนี้ นอกจากจะเป็นงานแสดงศิลปะแล้ว ยังมีวัตถุประสงค์อยากให้เราได้ สำรวจ และ รู้จักชุมชน ที่ปกติเราอาจจะไม่ได้สัมผัส ซึ่งนัทบอกเลยว่า วันนี้ เราบรรลุวัตถุประสงค์สุดๆ หลายๆ ที่ นัทยังไม่เคยมาและตื่นเต้นที่จะได้รู้จักกรุงเทพฯ ในมุมมองนี้มาก นัทเดินเล่นตั้งแต่ 6 โมง เดินไป ชมงานไป กินไป ถ่ายรูปไป รู้ตัวอีกที เกือบสี่ทุ่ม สนุก ได้เดินเยอะ ๆ เหมือนเวลาไปต่างประเทศเลยชอบมาก ๆ

งานจัดขึ้นวันที่ 11 – 20 ธันวาคม 2020 เวลา 18.00 – 23.00 น. ไปก่อน ไปหลัง ได้ แต่ไฟเปิดตามเวลานี้เท่านั้นค่ะ

ส่วนตัวนัทไปมา ยังเก็บไม่ครบนะ น่าจะได้กลับไปใหม่แน่ๆ ค่ะ

หมายเหตุ – คำบรรยายงานศิลปะแต่ละชิ้น มาจากเว็ป Timeout Bangkok แม่งานในครั้งนี้ สามารถไปอ่านฉบับเต็มของทุกงานได้ที่นี่ค่ะ >> https://www.timeout.com/bangkok/th/art/awakening-bangkok-installations-2020

สำหรับสถานที่จัดแสดงทั้งหมด จะยาวทั่วทั้ง ถนนเจริญกรุง ตั้งแต่โรงหนังปริ๊นซ์ ไปจนถึงตลาดน้อย ซึ่งส่วนตัวนัทเริ่มเดินจากตรงตลาดน้อยมาก่อน แถวๆ ศาลเจ้าโรงเกือก ตรงนี้มีหลากหลายชิ้นงาน

DISTORTED ศิลปิน: COTH STUDIO x NATTAPAT สถานที่: Taladnoi
แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเดินในย่านตลาดน้อยแล้วไม่เจอแมวสักตัว เพราะพวกเขาอยู่ร่วมกับชาวชุมชนมายาวนาน DISTORTED คือการจำลองท่าทางของแมวในช่วงเวลาที่มีปฏิสัมพันธ์กับคนและบริบทต่างๆ ในพื้นที่

ไอเดียตรงนี้น่ารักมากๆ เลยค่ะ เดินมาก็เจอแมวมาตลอดทางจริงๆ

DANCING RIVER ศิลปิน: 27JUNE STUDIO สถานที่: Baan Rim Naam
เปิดผัสสะทั้ง 5 อันได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส ไปพร้อมๆ กับนั่งมองความพริ้วไหวของชิ้นงานที่จำลองมาจากการเคลื่อนไหวของคลื่นแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้ทุกคนได้รู้สึกผ่อนคลายเหมือนนั่งพักริมแม่น้ำ

ชอบความคอนทราสท์ของไฟกับอาคารเก่ามากๆ แล้วร้านนี้ บรรยากาศดีมาก นัทไม่เคยมาเลย ได้กลับมาใหม่แน่ๆ

ซ้าย

SUNITY ศิลปิน: NUTIDA x TRWT สถานที่: Baan Rim Naam
สองศิลปินไทยจากคนละซีกโลก (New York และ Berlin) ถ่ายทอดประสบการณ์จากการกักตัวกว่าครึ่งปี ที่มีทั้งความกลัว ความกังวลใจ มีเพียงแสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามาในห้องทุกๆ เช้า เป็นสิ่งปลอบใจให้รู้สึกมีความหวังเสมอ

ขวา

PEBBLES PROJECT ศิลปิน: PUNPITAN X KIMBAB:) สถานที่: Patina Bangkok
ย่านเจริญกรุง ประกอบไปด้วยชุมชนที่มีความหลากหลายทั้งเชื้อชาติและศาสนา ไม่ว่าจะเป็นชุมชนมุสลิม ชุมชนคริสเตียน ชุมชนชาวจีน ฯลฯ ทำให้ย่านนี้เต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่มีสีสัน สะท้อนผ่านหินก้อนหลากสีที่เปล่งประกายอย่างงดงามในผลงานชิ้นนี้

RAINING AS USUAL ศิลปิน: YEAST สถานที่: Patina Bangkok
เพราะความงามของสายฝนไม่ได้เกิดจากการที่เราสัมผัสมันโดยตรง หากแต่เป็นการรับรู้มันอย่างมีระยะและพื้นที่ต่างหาก ศิลปินจึงจำลองการมาถึงของสายฝนและตีความใหม่ผ่านองค์ประกอบของภาพ เสียง และพื้นที่ เพื่อสร้างช่องว่างสมมุติระหว่างเรากับประสบการณ์เหล่านั้น

ที่ Patina นี่ installation มาทั้งแสง สี เสียง มีมิติเยอะมากเลยค่ะ กระทบสัมผัสได้เยอะดีค่ะ มีงานศิลปะที่เราสามารถมีส่วนร่วมได้ด้วย

FRAGMENTS ศิลปิน: CEDRIC ARNOLD สถานที่: Patina Bangkok
สำรวจและตั้งคำถามเกี่ยวการรับรู้ของมนุษย์ ว่าด้วยเรื่องของเวลา ความทรงจำ และความเป็นจริง ผ่านปรากฏการณ์ Apophenia ในภาพเคลื่อนไหวที่แสดงการหลอมรวมกันอย่างไร้รูปแบบและไร้ข้อจำกัดของอิมัลชัน

มาจนถึง โซว เฮง ไถ่ ซึ่งปกติเป็นโรงเรียนดำน้ำ จะมีสระ 4 เมตร อยู่ตรงกลางบ้านแบบจีนๆ เลย เค้าเป็นหนึ่งในมุมอินสตาแกรมอยู่แล้วนะคะ แต่ไม่เคยเห็นตอนกลางคืน ตรงนี้จะมีค่าเข้า 50 บาทค่ะ เป็นการฉายแสงไฟลงบนน้ำ และจะมีการอินเตอร์แอคทีฟกับการ์ดที่เราได้ไปด้วย

CARP TALE ศิลปิน: DIGITAL PICNIC สถานที่: So Heng Tai
การเล่าใหม่ของ ‘ตำนานหลีฮื้อ’ หรือปลาคาร์ปแดงตัวหนึ่งที่ใช้ความมุ่งมันในการว่ายทวนน้ำเพื่อข้ามประตูมังกรที่สูงชัน และได้กลายร่างเป็นมังกรทะยานขึ้นฟ้าในที่สุด ทำให้ปลาคาร์ปกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความเพียรพยายาม

จากนั้น เราก็วาร์ปมาแถวๆ Warehouse 30 ค่ะ แล้วค่อยๆ เดินไปจนถึงโรงหนังปริ๊นซ์เลย ตรงไหนที่คนเยอะๆ เราอาจจะแค่ชม แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ

JOHNNIE WALKER presents TAKE A WALK ศิลปิน: DON BOY สถานที่: Warehouse 30
ท่องไปในป่าแห่งอนาคตที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาและจะดำเนินไปเช่นนั้น ไม่ต่างจากความงามตามธรรมชาติที่แปรเปลี่ยนไปได้ทุกเมื่อ แต่ทุกรูปแบบล้วนมีความน่าสนใจในตัวเอง

ตรงนี้นัทชอบนะ เพราะมันเปลี่ยนตลอด เดินเข้าไป แล้วมู้ดที่ถ่ายออกมาก็จะมีความน่าสนใจเฉพาะตัวแตกต่างกัน

มาจนถึงหน้าไปรษณีย์กลางค่ะ งานนี้ชื่อว่า

JOHNNIE WALKER presents JOURNIE ศิลปิน: YIMSAMER สถานที่: The Grand Postal Building

ฝูงปลาอาจแหวกว่ายบนอากาศ บ้านเมืองอาจกลับหัว เทือกเขาอาจกลายเป็นมหาสมุทร แต่ไม่ว่าโลกในอีก 10 ปี 20 ปี หรือ 100 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร สิ่งที่เราทำได้ก็คือ Keep Walking ไปบนเส้นทางที่น่าสนุก ตื่นเต้น และเหนือจินตนาการ

สังเกตดีๆ เค้ามีลู่วิ่งให้ขึ้นไปเดินจริงๆ นะคะ

ต่อมาแถวบ้านพักตำรวจน้ำค่ะ

BGC GLASS STUDIO presents ARTEMIS ศิลปิน: TITIPA THINRACH สถานที่: Marine Police Lodge

สังคมได้สร้างกรอบให้ ‘เพศหญิง’ มีบทบาท หน้าที่ และคุณค่าตามขนบธรรมเนียม ผลงานชิ้นนี้จึงต้องการปลดปล่อยอิสรภาพให้เพศหญิงสามารถแสดงออกถึงความงาม สิทธิและเสรีภาพได้อย่างเท่าเทียม เฉกเช่นเทพีอาร์ทิมิสที่ทั้งงดงามและไม่อยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ใดๆ

BGC GLASS STUDIO presents LIGHT UP THE CITY ศิลปิน: AKE RAWDMEK สถานที่: Marine Police Lodge

เสียงที่เปล่งออกมาไม่ว่าจะเบาเหรือดัง ล้วนสามารถกลายเป็นแสงสว่างได้ในความมืดมิด เพราะทุกถ้อยคำที่ผลงานชิ้นนี้ได้ยินจะทำให้เกิด ‘บทสนทนาแห่งแสง’ ที่จะส่องสว่างขับไล่ความมืดมิด และเกิดเป็นไฟแห่งความสร้างสรรค์

BGC GLASS STUDIO presents SOCIAL DISTANCING 2020 ศิลปิน: CHATTAKAN VONGSIRI สถานที่: Marine Police Lodge

แสงที่ส่องกระทบลงพื้นผิวแก้ว จะสร้างเงาและสีสันที่ส่องกระจายบนพื้นที่โดยรอบ ซึ่งเงาเหล่านั้นจะหมุนวนเคลื่อนที่อย่างช้าๆ แทนความรู้สึกของศิลปินที่ต้องการพูดถึงสถานการณ์โลกในตอนนี้ที่ทุกอย่างยังคงเคลื่อนไหว ทว่าทุกคนรับรู้ได้ว่าไวรัสอันตรายยังคงมีตัวตน แม้ตาจะมองไม่เห็น

RIVULET ศิลปิน: THEERAWAT KLANGJAREONCHAI สถานที่: Haroon Mosque Community

ความเชื่อที่เอาชนะความกลัว “เดินบนน้ำ” พูดอีกนัยหนึ่ง คือชีวิตที่เหนือธรรมชาติของความเป็นไปได้ที่ไม่มีสิ้นสุด ซึ่งคุณมองไม่เห็นสิ่งกีดขวางหรือข้อจำกัด เพียงแค่คุณกล้าที่จะก้าวเดินออกมา ชวนให้นึกถึงความกล้าที่เราต้องมี เพื่อเผชิญการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอน ศิลปินจึงอยากชวนทุกคนมาเผชิญหน้าและเรียนรู้ความเป็นไปได้จากความเป็นไปไม่ได้

ที่โรงหนังปริ๊นซ์ เค้าจะมีฉายหนังเรื่อง The Man Who Walked Around The World เข้าชมได้ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ มี 4 รอบต่อวัน ถ้าเหนื่อยๆ ก็มานั่งพักดูหนังชิวๆ ได้เลย