รีวิวเทียบ ไพรเมอร์ (Primer) 3 ตัวดังจาก SMASHBOX Original Photo Finish vs Primerizer vs Vitamin Glow

หากพูดถึงไพรเมอร์ (Primer) ตัวดังที่ครองใจสาวๆ หลายคนมาอย่างยาวนาน คงต้องยกให้แบรนด์ SMASHBOX กับ The Original Photo Finish ไพรเมอร์เบลอผิวจนเนียนในตำนาน และด้วยความที่แบรนด์ประสบความสำเร็จกับ Primer ขายดีจนเป็น Best-Selling ทางแบรนด์ก็พัฒนา Primer สูตรใหม่ๆ ออกมาไม่หยุด เพื่อจะได้ตอบโจทย์กับทุกความต้องการและสภาพผิวของสาวๆ ทุกคน

ซึ่งวันนี้ เราหยิบ Primer ของ SMASHBOX มา 3 ชิ้น พลีชีพหน้าสด ลงให้ดูทีละตัวเลย โดยวันนี้เราหยิบ The Original Photo Finish Primer  มาเปรียบเทียบพร้อมกับรุ่น Primerizer และ Vitamin Glow Face Primer ค่ะ

เราซื้อขนาดทดลองมานะคะ จะเล็กกว่าปกติเกินครึ่งเลย แต่อยากลองให้ดูกันค่า

เริ่มจากตัวแรกค่ะ

1. Photo Finish Primerizer Primer + Moisturizer in 1

คำเคลม : ไพรเมอร์และมอยส์เจอไรเซอร์ในหนึ่งเดียวที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมช่วยปรับผิวให้เนียนเรียบก่อนการแต่งหน้า เนื้อผลิตภัณฑ์ซึมซาบเร็วไม่เหนียวเหนอะหนะ ปราศจากสารกันเสีย Sodium Lauryl Sulfate, Phthalates, Oil, Fragrance และ Talc

ผลลัพท์ : เป็นสูตรน้ำทำให้ไม่แพ้ง่าย และ ไม่อุดตันจริงๆ ค่ะ ใช้แทนมอยเจอร์ไรเซอร์ทำให้ไม่ต้องลงหลายขั้นตอนให้หนักหน้าค่ะ ปรับผิวให้เนียนได้ระดับนึงเลย แต่ไม่ได้เอฟเฟคต์เบลอแบบ The Original Photo Finish นะคะ ซึมเร็วไม่เหนียวเหนอะหนะจริงตามคำเคลมเลยค่ะ

ข้อเสียคือ ไม่ได้รู้สึกว่านางเติมความชุ่มชื่นได้ถึง 24 ชั่วโมงขนาดที่เคลมนะคะ (ช่วยให้ชุ่มชื่นจริงๆ ตอนที่ทาและช่วงแรกๆ) และถ้าอยากให้ชุ่มจริงๆ ก็ต้องกดหลายปั๊มหน่อยทำให้เทียบกับราคาแล้วมันอาจจะสูงนิดนึงค่ะ

Texture – เป็นเนื้อแบบน้ำนม นุ่มลื่น และไม่ใช่เนื้อซิลิโคนแบบ The Original Photo Finish ตัวหลักของแบรนด์นะคะ  ซึ่งมันซึมลงผิวไปเลยจริงๆ ทำให้ไม่เยิ้มหรือเป็นคราบ เกลี่ยง่าย ลงรองพื้นง่าย

Packaging – ขวดแก้วมีหัวปั๊ม ไม่เลอะเทอะ กะปริมาณง่าย พกพาสะดวกค่ะ

Shade – เนื้อไพรเมอร์เป็นสีขาวค่ะ แต่พอทาแล้วใส ไม่มีสี ไม่ได้ช่วยปรับเรื่องสีผิว หรือ ทำให้หน้าวอกหรือเทาค่ะ ทาแล้วยังเห็นพวกรอยแดงอยู่ แต่หน้าเรียบเนียนขึ้นค่ะ

Before – After จะสังเกตเห็นได้เลยว่า มีความดิวอี้และชุ่มชื้นขึ้น มีความเรียบเนียน แต่ที่เห็นว่ารูขุมขนดูเบลอในภาพ อาจจะเป็นแสงสะท้อนที่เกิดจากผิวที่ฉ่ำน้ำขึ้นด้วยนะคะ เพราะส่องกระจกดูก็ยังเห็นรูขุมขนอยู่นะ แต่ถ่ายรูปขึ้นขนาดนี้ ก็สมชื่อ Photo Finish จริงๆ

จริงๆ ตัวไพรเมอร์ไม่ได้ปรับสีผิวนะคะ แต่เข้าใจว่า พอลงไปแล้วเกิดแสงสะท้อน พอถ่ายรูปมาเลยทำให้หน้าดูสว่างใสขึ้นไปด้วย

2. Photo Finish Vitamin Glow Face Primer

คำเคลม – ไพรเมอร์สูตรวีแกนและปราศจากการทดลองกับสัตว์นี้ พร้อมจะมอบความสดชื่นและการบำรุงที่อัดแน่นไปด้วยวิตามินต่าง ๆ มีส่วนผสมของน้ำสกัดจากเบิร์ชและวิตามิน B, C และ E เพื่อช่วยเพิ่มความโกลว์อย่างดูเป็นธรรมชาติอีกทั้งช่วยฟื้นฟู เติมเต็มความชุ่มชื้น และเตรียมผิวก่อนลงเมคอัพต่าง ๆ

ผลลัพท์ – ตอนที่ทาลงไปจะมีกลิ่นหอมซิตรัสอ่อนๆ สดชื่นดีค่ะ ให้ผิวดูโกลว์เป็นธรรมชาติจริงๆ แต่ไม่ได้ถึงขนาดฉ่ำน้ำเป็นลุคดิวอี้นะคะ เติมเต็มความชุ่มชื่นในระดับนึง เนียนจริง โกลว์จริง ลงเมคอัพง่ายจริง ส่วนเรื่องฟื้นฟูอาจจะต้องดูในระยะยาว เพราะส่วนตัวว่า ยังไม่ถึงขั้นที่ทาปุ๊ป จากผิวแห้งๆ ล๊อกน้ำเข้าไปทันที อะไรแบบนั้นนะคะ (แต่นางก็เป็นไพรเมอร์เนอะ ไม่ใช่มอยเจอร์ไรเซอร์)

Texture – สูตรนี้เป็นเนื้อเจลแตกตัวเป็นน้ำ บางเบามากๆ ค่ะ กลิ่นดีมาก เกลี่ยง่าย ไม่หนักหน้า มีความรู้สึกเหมือนมีอะไรเคลือบผิวนิดๆ ไม่เป็นคราบ

Packaging – ขวดพลาสติก หัวปั๊ม พกพาง่าย มีฝาปิดไม่เลอะเทอะ

Shade – เนื้อเจลออกสีส้มนิดๆ แต่ทาแล้วไม่มีผลค่ะ รู้สึกกระจ่างใสขึ้นนิดๆ

Before-After มาดูรูปก่อน-หลัง กันค่ะ จะสังเกตเห็นว่า ช่วยเบลอรูขุมขน และ เพิ่มความเรียบเนียน หรือความโกลว์ได้จริง อย่างในรูปที่อาฟเตอร์ดูผิวสว่างขึ้น น่าจะเป็นเพราะความโกลว์ของไพรเมอร์ที่สะท้อนเข้ากล้องนะคะ ดูด้วยตา สีไม่ได้เปลี่ยนขนาดนั้น

หลังทาลองพื้นแล้ว หน้าฝั่งขวาทา Vitamin Glow ค่ะ ฝั่งซ้ายทา Primerizer ส่วนตัวคิดว่าดูใกล้เคียงกันมากๆ ค่ะ

3. The Original Photo Finish Foundation Primer

คำเคลม : ไพรเมอร์สูตรอำพรางรูขุมขนและริ้วรอยแห่งวัย พร้อมมอบผลลัพธ์เป็นแมทโดยไม่ทำให้ผิวแห้งและควบคุมความมันได้ยาวนาน 8 ชั่วโมง ปราศจากสารกันเสีย น้ำมัน และน้ำหอม, อุดมคุณค่าจากวิตามิน A & E, สารสกัดจากเมล็ดองุ่น และชาเขียว

ผลลัพท์ : อำพรางรูขุมขนได้จริง ทาแล้วแมทเลยจริงๆ คุมมันได้จริง อันนี้ตามคำเคลมเลยค่ะ ไม่มีกลิ่น ลงง่าย ลงปุ๊ป หน้าคือเนียนและเบลอเหมือนใช้ฟิลเตอร์เลยทันที เครื่องสำอางติดทนเลย ส่วนตัว ติดแค่คำเคลมที่ว่าไม่ทำให้ผิวแห้ง คือตัวไพรเมอร์ไม่ได้ทำให้ผิวแห้งก็จริง แต่ถ้าช่วงนั้นหน้าแห้ง จะแอบคราบและหลุดง่ายนิดนึง ต้องลงบำรุงเยอะๆ ก่อน

Texture – เนื้อเป็นเบสซิลิโคน ทำให้ลื่นและเบลอผิวได้ดีมาก เกลี่ยง่าย ใช้เพียงนิดดดเดียว ทั่วหน้าแล้ว ลงแล้วเบา ไม่หนักหน้าค่ะ ไม่มีน้ำมัน ทำให้ไม่ได้รู้สึกว่าอุดตัน แต่มีความรู้สึกว่ามันเคลือบหน้าหน่อย ก็จะทำความสะอาดเป็นพิเศษหน่อยค่ะ

Packaging – ตัวนี้เป็นหลอดแบบบีบค่ะ

Shade – สีใสมาเลยค่า ตัวไพรเมอร์ไม่ทำให้หน้าลอยแน่นอน

Before-After ชัดเจนมากว่า เป็นผิวแมท จะเป็นคนละลุคกับ 2 ตัวด้านบนเลย มีความเบลอเกิดขึ้น และสีของพวกรอยต่างๆ จะยังอยู่ค่ะ

พอลงรองพื้นแล้ว ก็ยังจะมีความเบลอ และ แมท มากกว่าค่ะ ดู smooth ไปเลย แต่ไม่เงา

สรุป – พอเทียบทั้ง 3 ตัวแล้ว คิดว่าน่าจะได้ใช้ Primerizer ตัวแรก บ่อยที่สุด เพราะไม่หนักหน้า และชอบฟินนิชชิ่งที่มีความดิวอี้นิดๆ ค่ะ จริงๆ ถ้าพูดถึงความเนียนและการเกลี่ย ตัว Vitamin Glow ก็ให้ความรู้สึกไม่ต่างขนาดนั้น มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของซิตรัสด้วย แต่ยังชอบความฉ่ำน้ำของ Primerizer มากกว่าค่ะ

แต่ถ้าเป็นวันที่ต้องการความกริ๊บ แบบเบลอหน้าให้เลยไม่ต้องใช้ฟิลเตอร์ ก็ต้องกลับไปพึ่งพาคุณ The Original Photo Finish ซึ่งฟินนิชชิ่งต่างจาก 2 ตัวแรกเลย สำหรับเรา รู้สึกว่ามันอาจจะเยอะไปนิดนึงในวันธรรมดา  เพราะมันต้องทำความสะอาดดีๆ ไม่งั้นสิวอุดตันมาแน่ ฟินนิชชิ่งจะค่อนข้างแมท แต่เราก็จะเลือกตัวนี้ในวันสำคัญหรือวันถ่ายรูปค่า

1. SMASHBOX – Photo Finish Primerizer Primer + Moisturizer in 1
ราคา : 1,590 บาท / 30 มล.
ใช้ซ้ำมั้ย? : 9/10 ชอบความเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ของนางจริงๆ
ซื้อได้ที่ Sephora.com คลิ๊กเลย!!

2. SMASHBOX – Photo Finish Vitamin Glow Face Primer
ราคา : 1,400 บาท / 30 มล.
ใช้ซ้ำมั้ย? : 7.5/10 คิดว่าใกล้เคียงกับตัวบนมาก และชอบตัวนั้นมากกว่า เลยอาจจะไม่ได้ซื้อซ้ำค่ะ แต่ถ้านับเดี่ยวๆ ก็ถือว่าใช้ได้เลย
ซื้อได้ที่ Sephora.com คลิ๊กเลย

3. SMASHBOX – The Original Photo Finish Foundation Primer
ราคา : 1,350 บาท / 30 มล.
ใช้ซ้ำมั้ย? : 8.5/10 อันนี้ใช้ได้นานมากกกกเลยค่ะ เพราะครั้งนึงใช้นิดเดียวก็ทั่วหน้าแล้ว ส่วนตัวใช้ในโอกาสพิเศษก็จะซื้อหลอดเล็กที่ 12 มล. 580 บาท ติดกล่องเครื่องสำอางไว้ค่ะ
ซื้อได้ที่ Sephora.com คลิ๊กเลย


หากชอบรีวิว อย่าลืมกดไลค์เพจ และ ติดตามไอจี @eatchillwander ด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆ ค่า




ติดตาม Eat Chill Wander ได้ที่
Facebook : Eat Chill Wander
Instagram : @eatchillwander
Twitter : @eatchillwander
Youtube : Eat Chill Wander
Website : www.eatchillwander.com

error: