[รีวิว] OJO ห้องอาหารเม็กซิกัน บนชั้น 76 โรงแรม The Standard Bangkok Mahanakhon

นับเป็นอีกหนึ่งความน่าตื่นเต้น เมื่อโรงแรมที่มีคาแรคเตอร์สนุกสุดชิคอย่าง The Standard, Bangkok Mahanakhon (เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร) ได้เปิดตัวห้องอาหาร Ojo (โอโฮ) ห้องอาหารเม็กซิกัน บนชั้น 76 ซึ่งเป็นหนึ่งในห้องอาหารที่อยู่สูงที่สุดของกทม. และมีการตกแต่งที่สวยงาม น่าค้นหา มองไปทางไหนก็สวยไปหมดทุกมุม

คำว่า Ojo นั้น อ่านว่า โอโฮ เป็นภาษาสแปนิช แปลว่าดวงตา

ในครั้งแรกที่เราได้ยินว่าเป็นอาหารเม็กซิกันนั้น เราก็นึกถึง ทาโก้ เบอร์ริโต้ พวกแป้งห่อไส้ชีส ซึ่งจริงๆ แล้ว นั่นเป็นอาหารสไตล์ Tex-Mex หรือเม็กซิกันที่มีความอเมริกัน/ฟาสท์ฟู้ดระดับหนึ่ง ในขณะที่ ถ้าใครได้ชมรายการแข่งขันทำอาหาร, ซีรีส์เกี่ยวกับเชฟ หรือ อ่านหนังสือเกี่ยวกับอาหารจากทางเม็กซิโกแล้ว จะเห็นได้ว่า อาหารเม็กซิกัน ต่างจากแบบ Tex-Mex โดยสิ้นเชิงเลย

ซึ่งนัทเอง ก็ไม่เคยมีโอกาสได้ทานอาหารเม็กซิกันแบบที่เห็นในรายการแบบนั้นในประเทศไทยมาก่อนเหมือนกันค่ะ พอทราบมาว่า ที่นี่จะเสิร์ฟ Mexican แบบแท้ๆ นั้นก็ตื่นเต้นมากๆ แถมเชฟ Francisco Paco Ruano ที่ดูแลเมนูของที่นี่นั้น เป็นเจ้าของร้านจองยากในเมือง Guadalajara ที่ติดลิสท์ Latin America’s 50 Best Restaurants ด้วยค่ะ

เชฟ Paco เล่าให้ฟังว่า จริงๆ อาหารเม็กซิกัน ที่เม็กซิโกมีคัลเจอร์คล้ายไทยอย่างน่าประหลาดใจ ทั้งการทานแบบแชร์กัน รสชาติที่จัดจ้าน เลยน่าจะถูกใจชาวไทยได้ไม่ยากค่ะ

นอกจากเรื่องของอาหารแล้ว อีกสองอย่างที่โดดเด่นมากๆ คือเรื่องของเครื่องดื่มและการตกแต่งภายในค่ะ สวยมากกกก ถ้ามาก่อนพระอาทิตย์ตกนิดๆ ก็จะเห็นแสงส้มๆ กระทบกับการตกแต่งสีทองโมเดิร์น มีดีเทลที่เป็นหินอัญมณี และ เทกไทล์ในแบบละตินอเมริกัน มาแทรกอยู่ในความโอ่อ่า ลงตัวและถ่ายรูปสวยมากๆ ค่ะ

พูดถึงชื่อร้าน ชื่อ โอโฮ ยังหมายถึงสัญลักษณ์ดวงตาของพระเจ้า หรือ Ojo de Dios (Eye of the God) ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์เมื่อนานมาแล้วที่ผู้คนนับถือบูชาและให้ความสำคัญทั้งในทางศาสนาและวัฒนธรรมค่ะ

มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเม็กซิโกที่มีความเชื่อมโยงทั้งในเรื่องของประเพณี ความเชื่อของผู้คน ความศรัทธา และเป็นเครื่องหมายของพลังในการปกป้องจากพระเจ้าอีกด้วย

ส่วนที่บาร์นั้น มีค็อกเทลของทางร้านหลายตัว ที่โดดเด่นน่าจะเป็น Mezcal ท้องถิ่นที่นำเข้ามา ถือว่าหาทานยากเลยค่ะ พอนำมาทำค็อกเทลก็ถูกปากมากๆ ให้ที่บาร์แนะนำได้เลยว่าเราชอบแบบไหน

แก้วที่นัทชอบมากจะเป็น Batanga ที่ถ้าอ่านส่วนผสม เหมือนจะเฉยๆ แต่ว่า ทำออกมาดีมากกกเลยค่ะ เป็น เตกิล่า โคล่าทำเอง เลม่อน และ เกลือสีชมพู แต่รสชาติมีความเปรี้ยวสดชื่น ความเค็มนิดๆ แบบนัวๆ ที่แก้ว ช่วยเสริมตัวเครื่องดื่มได้ดีมากเลย

มีที่นั่งที่เป็นโซน Terrace ด้วยค่ะ

มาชมอาหารนะคะ ที่นี่เมนูไม่ได้ใหญ่มาก เป็นเมนูหน้าเดียว แต่มีครบทั้ง Appetizer ร้อน/เย็น จานเมน ของหวาน มีเมนูน่าสนใจ น่าลองเพียบ

เมนูที่ขอแนะนำเลย Ojo Guacamole with corn tostadas (ราคา 480.-) แผ่นตอร์ตียาโฮมเมดบางกรอบทานคู่กัวคาโมเลฉบับโอโฮ มีการใส่เนื้อปูและไข่ปลาด้านบน บาลานซ์ดีและนัวมากๆ มีความอุมาหมิ ความมันอย่างพอดี เข้ากับตอร์ตีย่ามากๆ เลย

และอีกหนึ่งเมนูที่ห้ามพลาด Esquites (ราคา 390.-) เป็นเบบี้คอร์นย่าง กลมกล่อมสุดๆ ด้วยซอส Jalapeno และ ชีสเปโกริโน่

จานนี้ รสชาติอาจจะไม่เหมือนกับที่เราจินตนาการจากหน้าตาเลยค่ะ Aguachile with fresh tiger prawns (ราคา 590.-) อากวาชิเลหรือน้ำพริกแบบเม็กซิกันแท้ๆ ใช้กุ้งลายเสือทอปด้วยแตงกวาฝาน และพริกเขียว เป็นจานที่ acidity สูง ไลท์และสดชื่นมากๆ

Coconut Ceviche (ราคา 420.-) มะพร้าวอ่อนที่นำมาปรุงสไตล์เซวิชเช่ เสิร์ฟคู่ถั่วเหลืองหมัก นมมะพร้าว และพริกเหลือง จานนี้คือมีความมีตตี้ สดชื่น ชุ่มฉ่ำมากๆ เลย

มาต่อกันที่จานเมนดิช ส่วนใหญ่จะเน้นเป็นเนื้อสัตว์ชิ้นโต แล้วมีน้ำจิ้มมาหลากหลายมาก มีความคล้ายคนไทย แต่ว่ารสชาติเป็นคนละแนวเลยค่ะ มีการเสิร์ฟข้าวเหนียวด้วยนะคะ เชฟบอกว่า ที่โน่นก็ทานเหมือนกัน

Slow-cooked short rib Birria (ราคา 2,500.-) ซี่โครงย่างรสชาติกลมกล่อมที่เชฟนำไปสโลว์คุกจนเนื้อนุ่มละลายในปากเลยค่ะ

Pollo & Pipian (ราคา 1,300.-) ไก่ย่างชิ้นโต เสิร์ฟพร้อมซอส Green Pipian หรือ Green Mole ที่เข้มข้นไปด้วยเมล็ดฟักทอง มีปลายขมนิดๆ น่าสนใจ Fish Zarandeado (ราคา 1,100.-) ปลาย่างเตาไม้พิเศษ ทานกับเลมอนที่นำไปกริลล์มาช่วยชูรสให้เข้ากัน จานนี้หอมมากๆ ค่ะ

Carnitas (ราคา 1,400.-) ซี่โครงหมู confit นุ่มมากๆ จานนี้นัทชอบพอๆ กับ Birria เลยค่ะ

ปิดท้ายด้วยของหวาน Arroz con Leche (ราคา 350.-) จานนี้ด้านล่างเป็นข้าวนะคะ มีความครีมมี่ หอมวานิลลานวลๆ ไม่หวานเกินไป สีน้ำตาลข้างบนเป็น Soy Milk Flake ที่รสสัมผัสเบาสุดๆ เลยค่ะ ดีมากๆ

เชฟ Francisco Paco Ruano มาดูแลเองในช่วงแรก และส่งมือขวามาอยู่ประจำที่ห้องอาหารนี้ค่า


ร้าน Ojo Bangkok (โอโฮ)

ตั้งอยู่บนชั้น 76 โรงแรม The Standard, Bangkok Mahanakhon (เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร)

ถนน นราธิวาส ย่านสีลม ติดสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรีย์

มีบริการจอดรถแบบ Valet

เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.30 – 14.30 น. และ 17.30 – 23.30 น.

โทร. : 02-0858888
Website : https://www.standardhotels.com/bangkok/features/ojo-bkk

error: