[รีวิว] Ministry of Crab สาขากรุงโคลอมโบ มาถึงศรีลังกา ก็ต้องกินปูศรีลังกา!

หากคุณเป็นหนึ่งในฟู้ดดี้ที่ติดตามลิสท์ร้านอาหารอย่าง Asia’s 50 Best Restaurants เราเชื่อว่า จะมีหนึ่งชื่อที่สะกิดหูทุกครั้งแน่ๆ เพราะเป็นร้านเดียวจากประเทศศรีลังกาที่อยู่ในลิสท์มาทุกปีตั้งแต่ปี 2015 จนถึงปี 2020 นี้ ก็ยังได้อันดับที่ 30 ไปครอง นั่นทำให้ Ministry of Crab กลายเป็นเหมือนแลนด์มาร์คที่ผู้คนต่างก็ต้องไปลองเมื่อได้มาเยือน กรุงโคลอมโบ ประเทศศรีลังกา

แม้จะโด่งดังจนสามารถขยายสาขาไปหลายเมืองในเอเชีย รวมถึงสาขากรุงเทพฯ เอง แต่เมื่อ Eat Chill Wander มีโอกาสมาเที่ยวประเทศศรีลังกาทั้งที คงพลาดโอกาสที่จะมาลองร้าน Ministry of Crab สาขาออริจินอลไปไม่ได้

เห็นชื่อร้านก็ทราบแล้วว่าต้องได้กินปู แต่ความพิเศษของปูที่นี่มีหลายอย่างมาก ข้อแรกเลยคือ เชฟ Dharshan Munidasa พร้อมเพื่อนที่เป็นนักคริกเก็ทระดับตำนานของศรีลังกา Mahela Jayawardena และ Kumar Sangakkara เห็นว่า ปูในบึงติดทะเลทางชายฝั่งตอนเหนือของศรีลังกา (หรือ The Sri Lankan Lagoon Crab) นั้น เป็นหนึ่งในปูที่ดีที่สุดในโลก แต่กลับถูกส่งออก และหาทานในต่างประเทศง่ายกว่าในศรีลังกา เชฟ Dharshan และ หุ้นส่วนจึงเปิดร้านนี้ เพื่อเป็นเหมือนการสรรเสริญวัตถุดิบท้องถิ่นที่มีคุณภาพระดับโลกนี้

ข้อที่สอง ที่ทำเราตกใจไม่น้อย คือที่ร้านเป็น No-Freezer Policy ก็คือไม่มีตู้แช่แข็งเลย และวัตถุดิบทุกอย่างที่เราทาน ก็จะไม่ผ่านการแช่แข็ง เพราะทางร้านเชื่อในความสดของวัตถุดิบ จึงไม่จำเป็นต้องมีตู้แช่แข็งภายในร้าน

เชฟ Dharshan กับปูขนาด Crabzilla!

ร้าน Ministry of Crab ตั้งอยู่ภายใน Old Dutch Hospital Complex ที่เป็นเหมือนคอมมิวนิตี้มอลล์ที่รีโนเวทมาจากอาคารเก่าสมัยที่ชาวดัทช์เข้ามาปกครอง มีร้านอาหาร ร้านขายของ เป็นคอมเพลกซ์ที่เงียบสงบมากกกกกกก ถ้าเทียบกับความวุ่นวายตามท้องถนนของกรุงโคลอมโบ

ไวน์ที่ทางร้านเลือกมาเลเบล ตามชื่อเชฟ Dharshan

เริ่มที่อาหารจานแรก

OYSTER SIXERS (ราคา 2,200 LKR / ~380 THB)

จานที่เหมือนจะธรรมดา แต่ไม่ธรรมดาค่ะ หอยนางรมแกะพร้อมทาน มาพร้อมซอสเผ็ดและซอสถั่วเหลืองหมัก ความดีงามคือตัวซอสที่หมักเอง หยดลงไปอย่างละ 2-3 หยด แล้วทานกับหอยนางรม คือมันเหมือนตรงกลางระหว่าง ทานแบบฝรั่งที่ใส่ vinaigrette ซึ่งบางทีอาจจะไม่จัดจ้านถูกปากคนไทย กับ น้ำจิ้มซีฟู้ดซึ่งมักจะแรงไปจนกลบรสชาติของหอยนางรม เลยคิดว่า เป็นหนึ่งในวิธีทานหอยนางรมที่ลงตัวมาก อ้อ หอยนางรม เด้ง สด มากๆ เลยค่ะ

CRAB LIVER PÂTÉ (20g) (ราคา 2,200 LKR / ~380 THB)

ปาเต้ตับปูค่ะ เค้าบอกว่า ตับปูนั้นมีจำนวนน้อยมากๆ ถือเป็นของที่หาทานยากและเป็น delicacy ซึ่งที่ร้านนี้ก็มีจำนวนจำกัดต่อวันเช่นกัน จานนี้เราชอบมาก เพราะเป็นคนชอบทานปาเต้อยู่แล้ว พอมาเจอปาเต้ที่มันละเอียด หอมแบบมันปู ก็คือฟินมากๆ

ถัดมาเป็นเมนูกุ้ง King Prawn ค่ะ

เมนูนี้จะให้เลือกขนาดของกุ้ง แล้วสั่งได้ว่าจะทานแบบไหน มีทั้ง Chilli Prawns, Pepper Prawns, Garlic Prawns และอีกหลากหลาย ส่วนขนาดของกุ้ง ใหญ่สุดจะเป็น Prawnzilla ขนาด 500 กรัม

ขนาดที่เราเลือกมาจะเป็น OMG Prawn 400 กรัม (ราคา 4900 LKR / ~ 845 THB) ทำแบบ Chilli Prawns หรือ อบพริกนั่นเองค่ะ ตัวน้ำซอสที่อบมา เราเอาขนมปังปาดไม่หยุดเลย แต่ถ้าทานไปเยอะๆ จะเลี่ยนนิดนึง แนะนำให้สั่ง Pol Sambol ที่อยู่ในกะลามะพร้าวมากินแกล้มค่ะ

POL SAMBOL (WITH MALDIVE FISH) (ราคา 400 LKR / ~70 THB)

Sambol นี่เราจะเจอเกือบทุกมื้อในศรีลังกาเลยค่ะ Pol Sambol ก็เป็นหนึ่งในอาหารศรีลังกา ซึ่งมันคือ มะพร้าวขูดปรุงรส ในชื่อเมนูที่เขียนว่า with Maldive Fish เนี่ย ไม่ใช่ปลาจากมัลดีฟนะคะ! มัลดีฟฟิช คือชื่อของ ปลาทูน่าตากแห้งที่เป็นวัตถุดิบในการทำอาหารชนิดนึง คล้ายๆ Katsuobushi หรือ ปลาแห้งของญี่ปุ่นที่เอาไว้โรยบนทาโกยากิ อ่ะค่ะ

ซึ่งความพิเศษของ Sambol ของ Ministry of Crab คือ เค้าจะขูดมะพร้าวใหม่ต่อเมื่อเราสั่งเท่านั้น จะไม่ทำทิ้งไว้ค่ะ เป็นสูตรของครอบครัวคุณ Sangakkara ค่ะ

มาถึงไฮไลท์ของเราในวันนี้ แน่นอนว่าคือเมนู ปู ค่ะ

เช่นเดียวกับกุ้ง ปูเราก็ต้องเลือกไซส์ ซึ่งเราสามารถดูได้จากป้ายร้านเลยนะคะ เค้าจะมีเขียนชื่อไซส์และน้ำหนัก แล้วถ้าตัวไหนไม่มี เค้าจะดับไฟไว้ค่ะ ปูขนาดเล็กที่สุดของที่นี่ เป็นขนาดครึ่งกิโล และที่ร้านจะไม่เสิร์ฟปูที่เบากว่านั้น เพราะเป็นการอนุรักษ์ระบบนิเวศไว้ให้ประชากรปูยังสามารถเติบโตและขยายพันธุ์ได้ค่ะ

วันนี้ เราเลือกไซส์ที่ใหญ่รองลงมาเป็นอันดับสาม ชื่อว่าไซส์ Colossal เป็นปูขนาด 1.3 กิโลค่ะ ไซส์ใหญ่ที่สุดของที่นี่คือ Crabzilla ขนาด 2 กิโลขึ้นไป นี่ขนาดเลือกไม่ใหญ่แล้ว ก้ามปูยังใหญ่พอๆ กับมือเราเลยค่ะ

ส่วนเมนูที่ทำได้ก็มีตั้งแต่ Chilli Crab, Pepper Crab, Curry Crab, Garlic Chilli, Butter ซึ่งแต่ละอันก็จะแตกต่างกันไปค่ะ

เราเลือกกุ้งเป็น Chilli ไปแล้ว พอมาถึงปู เลยเลือกเป็น Pepper Crab ประกอบกับ ศรีลังกาเค้ามีพริกไทที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่งเครื่องเทศเลยนะคะ พริกไทยหอมมากจริงๆ มันมีความซอฟท์และเป็นเอกลักษณ์อยู่ ไม่ร้อน ไม่กลบความหวานของปูเลย ตัวเม็ดพริกไทยเค้าก็บดกันสดๆ ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า Miris Gala เป็นครกแบบแบน แล้วกลิ้งสากเพื่อบดเอาค่ะ ลองไปกูเกิ้ลดูได้

ที่นี่ใส่ใจในรายละเอียดเยอะมากกก เนยรูปปูน่ารัก อย่างพวกจานก็จะสกรีนตามสาขาที่ใช้เลยค่ะ แล้วก็เป็นลายของทางร้าน เกี่ยวกับปูหมดเลย

ทั้งหมดที่สั่งมานี่ 4 คนอิ่มนะคะ ปูตัวใหญ่จริงๆ กินแทบไม่ไหวแล้ว

มาถึงของหวาน Coconut Cream Bulee เป็นครีมบูเล่ในลูกมะพร้าวค่ะ อันนี้อร่อยแบบทั่วไปค่ะ

บรรยากาศภายในร้าน ทางร้านไม่มีแอร์นะคะ แต่ลมโกรกอยู่ เพราะมันเป็นลักษณะแบบคอร์ทยาร์ด นั่งทานได้ชิวๆ มีที่นั่งทั้งด้านในและด้านนอกค่ะ

อีกอย่างที่เป็นดีเทลเล็กๆ ที่เราชอบคือ เค้าตั้งใจใช้ต้น “ก้ามปู” ในการตกแต่งร้านค่ะ สาขาที่กรุงเทพฯ ก็ใช้เช่นกัน ที่น่าแปลกใจคือ ภาษาศรีลังกา (ภาษาสิงหล) ชื่อของต้นนี้ก็แปลว่า ก้ามปู เหมือนกันค่ะ

หากใครมาถึง กรุงโคลอมโบ ประเทศศรีลังกาแล้ว ก็ห้ามพลาดนะคะ สำรองที่นั่งล่วงหน้าด้วยน๊าาาาา


ร้าน Ministry of Crab สาขากรุงโคลอมโบ ประเทศศรีลังกา

ตั้งอยู่ที่ Old Dutch Hospital Complex, 04 Hospital St, Colombo

วิธีการเดินทาง : ส่วนตัวเราเช่ารถขับ ก็สามารถจอดรถที่ถนนใหญ่ได้ จะมีคนมาโบกและเก็บค่าจอดรถค่ะ เดินเข้าซอยไปนิดเดียว หรือ จะใช้อูเบอร์ หรือ ตุ๊กตุ๊ก ก็ได้ค่ะ

เปิดให้บริการทุกวัน มื้อเที่ยง 12.00 – 15.30 น. , มื้อเย็น 17.00 – 22.00 น.

เว็ปไซต์ : https://www.ministryofcrab.com/colombo/
สำรองที่นั่งล่วงหน้า : reservations@ministryofcrab.com

error: