กล่าวได้ว่านี่เป็นหนึ่งในร้านอาหารที่มาแรงสุดๆ เพราะตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปลายปี 2017 ที่ผ่าน เราได้ยินคนรอบตัวพูดถึงที่นี่ไม่เคยขาด ซึ่งเราขอสารภาพว่าตอนที่ได้ยินชื่อ Akira Back ครั้งแรกนั้น เราคิดว่าที่นี่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นมาโดยตลอด แต่จริงๆแล้ว ห้องอาหารนี้คือการตีความประสบการณ์อาหารเอเชียแบบใหม่ เพราะเป็นการผสมผสานประสบการณ์ของ เชฟ Akira Back หรือ เชฟ Sung Ook Back เชฟชาวเกาหลีที่มีโอกาสย้ายไปอยู่ประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ทำให้อาหารของเขานั้น มีอิทธิพลของอาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลี และ อาหารตะวันตกร่วมสมัยอยู่ โดยตัวเชฟนั้นมีร้านที่ได้มิชลิน 1 ดาวในกรุงโซล ประเทศเกาหลีเป็นที่เรียบร้อย ร้าน Akira Back สาขากรุงเทพนั้น ตั้งอยู่ชั้น 37 ในโรงแรม แบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค (Bangkok Marriott Marquis Queen’s Park) ถือเป็นร้าน Akira Back สาขาที่ 8 ในโลก ซึ่งความพิเศษสุดๆที่ทางผู้จัดการร้านแอบกระซิบให้เราฟังคือ ที่ประเทศไทย… [READ MORE…]
แว็บแรกที่เราเดินเข้ามาในร้าน เท็นชิโนะ (Tenshino) เรานึกไม่ถึงเลยว่า ที่นี่จะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ด้วยการตกแต่งร้านแบบ french bistro ที่มีสีสันสะดุดตา ทุกมุมของร้านเรียกได้ว่าผ่านการดีไซน์มาเป็นอย่างดี ทำให้เรารู้สึกถึงความหรูหราและตื่นเต้นไปพร้อมๆกัน ร้าน Tenshino ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 โรงแรม Pullman Bangkok King Power ที่ซอยรางน้ำ ต้องเดินทะลุเข้าไปหน่อย ทำให้ที่นี่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว และ บรรยากาศดี การตกแต่งร้านที่สวยงาม เหมาะกับการมาดินเนอร์ทั้งวันธรรมดาและโอกาสพิเศษๆ ทางร้านแนะนำเราว่า อาหารที่นี่เป็นอาหารญี่ปุ่นแบบร่วมสมัย ที่ยังคงคุณลักษณะและเทคนิคที่ดีที่สุดของอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มาประกอบกับเทคนิคการทำอาหารรวมถึงวัตถุดิบที่มาจากทางตะวันตก ทำให้เกิดเป็นเมนูที่โดดเด่นและมีความหลากหลาย ส่วนตัวเราเมื่อได้ทานไปแล้ว เราประทับใจกับการเลือกวัตถุดิบของที่นี่มากๆ เพราะเราสัมผัสได้เลยว่า ทางร้านได้เลือกใช้วัตถุดิบที่ดีสุดๆจริงๆ แถมยังปรุงได้พิถีพิถันตามมาตรฐานของอาหารชั้นเลิศ ทำให้เป็นส่วนผสมที่ลงตัวมากๆ เริ่มจากบาร์ที่มีค็อกเทล สาเก วิสกี้ญี่ปุ่น และ ไวน์ลิสท์หลากหลาย โซนนี้ เหมาะกับการทาน Pre-dinner cocktail มากๆ ตกแต่งสวยจริงๆ ที่นี่เหมาะกับหลากหลายโอกาส เพราะมีทั้งห้องส่วนตัว มีทั้งโซนที่เหมาะกับการมาดินเนอร์แบบโรแมนติคๆ มาสังสรรค์กับเพื่อน มาทานกับครอบครัว หรือ… [READ MORE…]
เมื่อปี ค.ศ. 2012 ที่ร้านรูฟท็อปย่านสีลมอย่าง Scarlett Wine Bar & Restaurant ได้กำเนิดขึ้น ทางร้านได้คัดสรรเชฟที่มือรางวัลที่จะมาคิดค้นและรังสรรค์เมนูบุกเบิกของสการ์เล็ต โดยเชฟท่านนั้นก็คือ เชฟ Manuel Martinez เจ้าของห้องอาหารมิชลิน 2 ดาวชื่อดังอย่าง Le Relais Louis XIII ที่เมืองปารีส อีกทั้งเขายังได้รับรางวัลเชฟที่ดีที่สุดในฝรั่งเศสกับรางวัล Maître Ouvrier de France (MOF) อีกด้วย เชฟเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในวงการครัวถึงพรสววรค์ในการประยุกต์แบบแผนการทำอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม มาปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ซึ่งในโอกาสนี้ เชฟ Manuel ได้กลับมายังร้าน Scarlett อีกครั้ง พร้อมกับเมนู ดินเนอร์สุด Exclusive ที่มีระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม – 1 กันยายน 2018 นี้เท่านั้น ซึ่งในค่ำคืนนี้ ดินเนอร์ของเชฟ จะเน้นคอนเซปท์ Farm-to-table โดยเน้นการดึงรสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบที่นำมาใช้ในอาหารทุกจาน ซึ่งเราสามารถเลือกเป็น A… [READ MORE…]
จะมีที่ไหนอีกที่คุณจะสามารถดินเนอร์อาหารฝรั่งเศสชั้นเลิศ ไปพร้อมๆกับวิวมุมสูงของกรุงเทพมหานคร ถ้าไม่ใช่ที่ Mezzaluna ร้านอาหารมิชลิน 2 ดาว บนชั้น 65 ของโรงแรม Lebua at State Tower นอกจากวิวที่สวยงามแล้ว ตัวร้านยังมีบรรยากาศที่หรูหรา การบริการอันเป็นเลิศ ส่วนตัวอาหาร ด้วยความที่เชฟริวกิ เป็นชาวญี่ปุ่น ที่โตมาในสายอาหารฝรั่งเศส เค้ายังเป็นลูกศิษย์และเคยมีประสบการณ์ในร้านดังๆหลายแห่งในโลก ทำให้นอกจากจะอาหารของเค้าจะเป็นฝรั่งเศสชั้นเลิศแล้ว ยังมีการผสมกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเข้าไปอย่างน่าสนใจอีกด้วย ข้อเสียเพียงเล็กน้อยของที่นี่ ที่อาจจะต้องทราบไว้ซักนิด คือ ร้าน Mezzaluna ตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับ Sky Bar ของเลอบัว ซึ่งโด่งดังมากในหมู่นักท่องเที่ยวฝรั่ง เรียกว่าเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาเช็คอินให้ได้ ทำให้ทุกครั้งที่เราไป จะต้องเจอกับความวุ่นวาย ตรงหน้ารีเซปชั่นและลิฟท์ที่ต้องใช้รวมกัน แต่เมื่อขึ้นลิฟท์มาถึง และแยกเข้ามาในตัวร้านเอง บรรยากาศจะเปลี่ยนไปเป็นแบบหรูหราขึ้นมาเลย (อาจจะเพราะเราเป็นคนไทย และพนักงานมักจะบ่นลูกค้าต่างชาติกันเอง ซึ่งลูกค้าก็วุ่นวายจริงๆ แต่เราฟังออกว่าเค้าพูดอะไรก็จะรู้สึกเนกาทีฟนิดนึง) ที่นี่เสิร์ฟเฉพาะดินเนอร์นะคะ ไม่เปิดช่วงกลางวัน โดยวันนี้เราเลือกเป็น 7 คอร์ส + ไวน์แพริ่งค่ะ เริ่มจาก Amuse Bouche… [READ MORE…]
หากใครกำลังหาที่เที่ยวในกรุงเทพ วันนี้เราขอมาอัพเดท คาเฟ่และร้านอาหารสุดชิค ที่ทำให้คุณรู้สึกอยากไป Cafe Hopping กันชิวๆอยู่ในเมืองหลวงของเรานี่แหล่ะ โดยครั้งนี้ เราจะขอโฟกัสไปที่ คาเฟ่และร้านอาหารในย่านกรุงเก่า ทั้งพระนคร และ เยาวราช ที่นอกจากจะมีร้านเก๋ๆแบบนี้แล้ว เรายังแวะไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆของไทยที่ดึงดูดผู้คนทั่วโลกมากันได้อีกด้วยนะ! ตามมากันเลย! Ha Tien Cafe คาเฟ่ที่มาแรงที่สุดในย่านท่าเตียน ด้วยการตกแต่งที่ให้กลิ่นอายวินเทจ กับการนำของเก่าเก็บชิ้นสวยมาวางไว้อย่างลงตัว ร้านนี้ออกแบบให้สั่งขนมและเครื่องดื่มได้ที่ชั้นล่าง ส่วนชั้นสองจะเป็นส่วนที่ตกแต่งโดยกรอบรูป สัตว์สตั๊ฟ อยู่บนผนังและโครงสร้างเก่าที่ดูมีสุนทรียภาพและน่าค้นหา ส่วนชั้นบนสุด เมื่อขึ้นบันไดวนไป ถูกตกแต่งเป็นสไตล์กลาสเฮ้าส์ สว่าง โปร่ง ร่มรื่น บรรยากาศดี ที่นี่มีเมนูสร้างสรรค์อย่าง กาแฟมะตูม (120 บาท) หรือ กาแฟอัญชัญ (120 บาท) ไปจนถึงของหวานน่าทาน อย่าง Raspberry Chocolate Cake (180 บาท) ที่ราดด้วยราสเบอร์รี่สด หรือ แมคคาเดเมียเค้ก (180 บาท) อีกด้วย Area : ท่าเตียน… [READ MORE…]
หากพูดถึงหนึ่งในร้านที่เราชอบมากที่สุดในกรุงเทพ ทั้งเรื่องของบรรยากาศ การบริการ และ ความพิถีพิถันของอาหาร คงต้องกล่าวว่า Le Normandie โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล เป็นร้านที่ให้ประสบการณ์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ก่อนที่เมืองไทยจะมี Michelin Guide Bangkok ร้านนี้ก็เป็นร้านที่เราเดาว่า จะต้องได้ดาวสูงที่สุด (ซึ่งตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่ามิชลินจะปล่อยสามดาวมั้ย ถ้าเทียบกับร้านสามดาวบางประเทศในเอเชีย ก็มีโอกาส แต่ถ้าเทียบกับร้านสามดาวในยุโรป อังกฤษ หรือ อเมริกา เราว่าก็อาจจะขาดอะไรบางอย่าง) แต่หลังจากที่ประกาศดาวออกมา Le Normandie เป็นหนึ่งในสามร้านในกรุงเทพ ที่ได้ 2 ดาวมิชลิน เราก็รู้สึกได้ว่า เชฟเริ่มมี explore เมนูอาหารออกไปให้เหนือระดับมากขึ้น จากอาหารฝรั่งเศสชั้นเลิศ ให้ได้เจอความลึกของรสชาติ และการผสมผสานองค์ประกอบต่างๆในจานอย่างน่าสนใจจากที่เคยทานก่อนหน้านี้ Degustation Menu นี้เป็นเมนูล่าสุดที่เราได้ไปทานมาในช่วงกลางปี 2018 ซึ่งสร้างความประทับใจให้เราเช่นเคย เริ่มจาก Amuse Bouche 4 คำแรก ที่กระตุ้นความอยากอาหารของเราสุดๆ ซึ่งทั้ง 4 คำให้รสสัมผัสที่แตกต่างกัน ทั้งฟรัวกาส์เทอรีนกับเยลลี่มะม่วง คำนี้รู้สึกดีมากค่ะ แล้วตัวที่อยู่ในช้อนจะเป็น… [READ MORE…]
คงจะกล่าวได้ว่า โอมากาเสะ (Omakase) ได้กลายเป็นคำคุ้นชินหูของทุกคนไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับมื้ออาหารซูชิสุดพิถีพิถัน ด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศ ซึ่งมักมาในราคาแพงค่อนข้างสูง แต่ก็คุ้มค่าที่นักกินหลายๆต้องไปลิ้มลอง ยิ่งถ้าเป็นที่โตเกียวแล้ว เรียกได้ว่าต้องจองร้านให้ได้ก่อน แล้วค่อยจองตั๋วเครื่องบินทีหลังกันเลยทีเดียว เราคงจะเคยได้ยินชื่อ Sukiyabashi Jiro กันมาบ้างในฐานะตำนานนักปั้นซูชิ ที่ยังคงปั้นซูชิชั้นเลิศให้เราได้ทานกัน แม้ว่าจะอายุอานามเข้าไป 92 ปีแล้วก็ตาม หนังเรื่อง Jiro Dreams of Sushi ได้สร้างความสั่นสะเทือนแก่วงการซูชิทั่วโลก เรียกได้ว่า หนังเรื่องนี้ทำให้ทุกคนนอกประเทศญี่ปุ่นได้ตื่นรู้ว่า ซูชิที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร และทำให้เกิดปรากฏการณ์ Omakase บูมขึ้นมาทั่วโลกหลังจากนั้น อย่างร้าน Araki ที่ลอนดอน ที่เพิ่งได้สามดาวไป กลายเป็นหนึ่งในร้านฮิตในลอนดอน รวมถึงร้านหนึ่งในร้านโอมากาเสะที่ดีที่สุดในอเมริกาตลอดกาลอย่าง Masa ที่นิวยอร์คที่เป็นเจ้าของสามดาวมิชลินเช่นกัน ย้อนไป 4-5 ปีก่อน ในกรุงเทพก็คงมีไม่กี่ร้านที่เสิร์ฟ Sushi Omakase แบบจริงจัง Sushi Ichi นับเป็นร้าน Omakase เฉพาะทางเจ้าแรกๆที่ได้มาเปิดสาขาในประเทศไทยเรา โดยมีสาขาหลักอยู่ในเขต Ginza, Tokyo ร้าน Sushi Ichi, Bangkok ตั้งอยู่ที่ชั้นใต้ดินศูนย์การค้าเอราวัณ และได้รับรางวัล Michelin… [READ MORE…]
‘Charoenkrung Contemporary’ คือคอนเซปท์ของร้านอาหารรูฟท็อปริมแม่น้ำเจ้าพระยาร้านล่าสุดที่เราไปมา โดยการนำวัตถุดิบท้องถิ่น และ รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์บางอย่างของไทย นำเสนอออกมาในรูปแบบสากลอย่างมีความน่าสนใจ ร้านนี้ ตั้งอยู่บนดาดฟ้าของโรงแรม Hotel Once ซึ่งเป็นบูทีคโฮเทลขนาดไม่ใหญ่แต่ดีไซน์เก๋ และแม้ว่า ร้าน Top Knot จะอยู่เพียงชั้น 9 แต่ก็ได้บรรยากาศทั้งจากหมู่ตึกย่านสาทร และแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้มีลมพัดเอื่อยๆนั่งได้เพลินๆ จริงๆแล้วร้านนี้ มีโซนในห้องแอร์ด้วยนะคะ หากใครที่แวะมาทานช่วงกลางวันและอากาศร้อนเกินไป ก็สามารถใช้บริการห้องแอร์ได้ เมนูค๊อกเทลของที่นี่มีความน่าสนใจหลายอย่าง อย่าง Bo-ra-ped ซึ่งมีการนำบอระเพ็ดเชื่อมมาใส่ หรือ ค๊อกเทลที่ชื่อ Nok ที่ใส่แห้ว ก็ทำออกมาได้ดี เรามาถึงที่นี่ช่วงพระอาทิตย์ตกพอดี สามารถกดลิฟท์ขึ้นมาที่ชั้น 9 ได้เลยนะคะ ด้านล่างจะเป็นห้องอาหารที่อินดอร์ ส่วนดาดฟ้า สามารถขึ้นบันไดไปได้เลยค่ะ เมื่อมาถึงก็มีจานนี้วางอยู่ให้ทานเล่นได้เลย ซึ่งเราชอบมากเลยนะคะ เป็นเบคอนพร้อมเครื่อง ที่ทานออกมาแล้วมันเข้ากันและสดชื่นมาเลยค่ะ นั่งทานกับเครื่องดื่มชิวๆก็ได้ เผลอแป๊ปเดียวหมดจาน แก้วนี้แหล่ะค่ะ Bo-ra-ped (ราคา 280 บาท) เป็น เบสวอดก้า… [READ MORE…]
นี่เป็นหนึ่งในร้านอาหารฝรั่งเศสที่เราไปทานค่อนข้างบ่อย และเป็นที่ที่ไปทั้งมื้อเที่ยง บรันช์ และ ดินเนอร์ โดยวันนี้ เราจะมารีวิว Lunch Set กับ เมนูที่เสิร์ฟช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ร้าน J’AIME By Jean-Michel-Lorain ชื่อ Jean-Michel Lorain เป็นชื่อของเชฟเจ้าของร้าน Cote Saint Jacques ที่ได้ 2 ดาวมิชลิน ในแคว้น Burgundy ประเทศฝรั่งเศส ลูกสาวของคุณ Jean-Michel ได้เลือกที่จะมาเปิดร้านที่ไทยกับเชฟ Amerigo Sesti ซึ่งเรียกได้ว่าฝึกสกิลมาไม่แพ้ต้นฉบับเลยค่ะ สำหรับร้าน J’AIME ที่กรุงเทพตอนนี้ได้รับ Michelin Star 1 ดาวนะคะ เหตุผลที่ชอบร้านนี้ นอกจากเรื่องของเทคนิคการทำอาหารและการจัดจานที่น่าชื่นชมแล้ว ที่สำคัญคือความคุ้มค่าค่ะ ตั้งราคาได้สมเหตุสมผลมากๆ แล้ววัตถุดิบกับฝีมือดีมากเลย ที่สำคัญ ที่นี่มี Sunday Brunch ทุกวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน ซึ่งเป็นแบบ All you can… [READ MORE…]
วันนี้ขอมาแนะนำร้านสเต๊กที่น่ารัก อบอุ่นและเป็นกันเองมากๆ “เวลาไปทานที่อื่นแล้วเค้าทำเนื้อออกมาไม่ค่อยดี ผมเสียดายเนื้อ ประกอบกับการสั่งเนื้อมาทำเองที่บ้านบ่อยๆอยู่แล้ว เลยเปิดร้านนี้ซะเลย อีกอย่างคืออยากทำร้านสเต๊กที่อบอุ่นๆ แบบพาลูกมาทานได้ ชิวๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตองเหมือนร้านในโรงแรม” นี่คือสิ่งที่คุณจอม เจ้าของร้าน Journey of Meats หรือ J.O.M. เล่าให้เราฟัง ภายในรั้วสีขาว ร้านสเต๊กที่ดูสบายและอบอุ่น กลับเต็มไปด้วยเนื้อหลากชนิดและตู้แช่เนื้อ Dry Aged ที่จริงจัง ทั้งเนื้อ Thai-french, Australian Black Angus, Australian Wagyu, US Angus ที่ตัดมาในส่วนต่างๆที่คุณชอบ และชิ้นสามารถเลือกเนื้อเองได้ แต่อีกอย่างที่เราอยากบอกคือ ร้านนี้ไม่ได้มีแค่สเต๊กเนื้อที่เด็ดนะคะ เมนูอื่นๆก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน เริ่มจากตู้แช่เนื้อ ที่เราสามารถไปเลือกส่วนที่เราชอบได้เอง ส่วนนี้ ให้ทางร้านแนะนำได้ค่ะ ว่าเราชอบทานเนื้อแบบไหน ชอบแบบนุ่มๆ กลิ่นอ่อนๆ หรือ ชอบแบบกลิ่นเนื้อชัดๆ กัดแล้วสู้ฟัน ขออธิบายการ Dry Aged ไว้คร่าวๆนิดนึงนะคะ การ Dry Aged คือการแช่เนื้อไว้ทีอุณหภูมิต่ำ… [READ MORE…]