[รีวิว] พักผ่อนเต็มอิ่มในกรุงเทพฯ ที่โรงแรม The St.Regis Bangkok (เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ)
นับว่าเป็นเทรนด์ที่มาแรงสุดๆ สำหรับเทรนด์ Staycation ที่มาจากคำว่า Stay + Vacation หรือ การใช้วันหยุดด้วยการไปพักผ่อนตามโรงแรมในเมืองที่ตัวเองอยู่ โดยไม่ต้องเดินทางไปไหนไกลๆ นอกจากจะไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางแล้ว ยังทำให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่เรานึกไม่ถึง ได้เห็นกรุงเทพฯ บ้านเราในมุมมองที่ต่างออกไป
ที่สำคัญ ถ้าเรามีโอกาสได้เลือกโรงแรมที่ดูแลเราเป็นอย่างดี อย่างที่โรงแรม The St. Regis Bangkok เค้ามีซิกเนเจอร์เป็น Butler Service ที่คอยดูแลเรา 24 ชั่วโมง รวมทั้ง Facilities ที่จัดเต็มของโรงแรม ก็ทำให้เราลืมความวุ่นวายไปได้ไม่น้อยเลยค่ะ
สำหรับวันนี้ เราจะพาไปชม 24 ชั่วโมง ในโรงแรม เดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ กัน ตั้งแต่ห้องพัก ห้องอาหาร สปา ทุกมุม ว่าแล้วก็ตามมาชมกันเลยค่ะ
Caroline Astor Suite
ในครั้งนี้ เราได้เข้าพักในห้องแบบ Caroline Astor Suite ซึ่งเป็นห้องสวีทที่อยู่ตรงหัวมุม ของทุกชั้น ทำให้มีวิวที่สวย และมีขนาดห้องที่กว้างมากถึง 90 ตร.ม. มีหนึ่งห้องนอน แยกกับห้องนั่งเล่น ห้องน้ำใหญ่ มีโต๊ะทำงาน โต๊ะทานข้าว และ ที่เราชอบมากคือหน้าต่างกระจกแบบ Floor-to-Ceiling เต็มบาน
ล็อบบี้ของ The St. Regis Bangkok จะอยู่ที่ชั้น 12 ค่ะ ขึ้นลิฟท์มาเช็คอิน ได้เลย
เปิดประตูเข้ามาในห้อง นับว่าเป็นห้องที่คำนึงถึงการใช้สอยได้ดีมาก ด้านหน้ามีห้องน้ำเล็กๆ 1 ห้อง และเข้าไปเป็นห้องนั่งเล่นก่อนค่ะ
โซฟาและโต๊ะทานข้าวใหญ่อลังการมาก มีเครื่องทำน้ำร้อน เครื่องทำกาแฟ ไว้ให้ แต่เราไม่ค่อยได้ใช้เลย เพราะสามารถขอเครื่องดื่มจากทาง Butler ได้ 24 ชั่วโมงเลยค่ะ พวกชา กาแฟ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ
เข้ามาเป็นห้องนอน ซึ่งเป็นวิวสนามกอล์ฟสีเขียว แล้วมีสกายไลน์ของกรุงเทพฯ อยู่ด้านหลังค่ะ เลยรู้สึกว่าลงตัวมาก เพราะเห็นทั้งวิวเมือง แต่ไม่อึดอัดเลย
ห้องน้ำกว้างแบบวิ่งเล่นได้ มีทั้ง Shower และ Bathtub ค่ะ ส่วนอ่างล้างหน้าก็เป็นอ่างคู่ค่ะ
Amenities ในห้องน้ำใช้เป็นของ Elemis แบรนด์เดียวกับสปาด้านล่าง
Facilities ต่างๆ ในห้องค่ะ ส่วนของ Walk-in closet ก็ใหญ่เช่นกัน
อันนี้โต๊ะทำงานด้านนอกค่ะ ครบครันมากๆ
ชุดเครื่องนอนผ้าคอตตอนอียิปท์นอนสบายมากกกกกก
วิวจากห้องนอน
คลิ๊กที่นี่ เพื่อเช็คโปรโมชั่นและสำรองห้องพักผ่าน >> Agoda.com
คลิ๊กที่นี่ เพื่อเช็คโปรโมชั่นและสำรองห้องพักผ่าน >> Booking.com
Butler Service
คลิ๊กที่นี่ เพื่อเช็คโปรโมชั่นและสำรองห้องพักผ่าน >> Agoda.com
คลิ๊กที่นี่ เพื่อเช็คโปรโมชั่นและสำรองห้องพักผ่าน >> Booking.com
Breakfast in Bed
หากได้มาพักห้องนี้แล้ว อย่าลืมสั่ง Breakfast in Bed กันนะคะ เพราะการตื่นมาพร้อมวิวสวยๆ ทานอาหารเช้าแบบขี้เกียจๆ ชิวๆ เนี่ย มันฟินมากๆ
แอบบอกว่า สามารถจองโรงแรมโดยไม่รวมอาหารเช้าปกติได้นะ แล้วก็มาสั่งเซ็ทนี้แทน
เมนูอาหารเช้าหลากหลาย รีเฟรชชิ่งมาก แน่นอนว่า คุณ Butler เค้ามาบริการกันแต่เช้าเลยค่ะ
คลิ๊กที่นี่ เพื่อเช็คโปรโมชั่นและสำรองห้องพักผ่าน >> Agoda.com
คลิ๊กที่นี่ เพื่อเช็คโปรโมชั่นและสำรองห้องพักผ่าน >> Booking.com
Elemis Spa
ปกติ รีวิวเรื่องอาหารจะได้ขึ้นก่อนนะ แต่เราชอบสปาที่นี่มากๆ เลยเขียนถึงก่อนเลย
แม้ว่าจะไม่ได้มาใช้บริการสปา แต่แขกที่เข้าพักทุกคนสามารถเข้ามาใช้ Relaxation Zone ได้ ซึ่งตรงนี้เราแนะนำมากๆ เพราะมันผ่อนคลายจริง
มีทั้งบ่อ Vitality Pool ร้อนและบ่อเย็น เหมือนออนเซนเลย แล้วยังมีห้อง Rasul Room เป็นห้องอบไอน้ำแบบอาราบิค จะไม่ได้มีไอน้ำเยอะๆ แบบสตรีมรูมปกติ
ห้องทำทรีทเม้นท์ก็ดีค่ะ เรามีโอกาสมานวดแบบ Deep-tissue ดีมาก ผ่อนคลายสุดๆ หลับสนิทไปเลยจ้า
Swimming Pool and Fitness
สระว่ายน้ำที่นี่เท่มาก เพราะพื้นเป็นสีดำ ดูหรูและเท่ไปอีกแบบ
จากสระว่ายน้ำ เราก็จะเห็นวิวสนามกอล์ฟและสกายไลน์ของกรุงเทพฯ เช่นกัน แต่ก็จะมีต้นไม้บังๆ อยู่ ร่มรื่นย์ดีค่ะ
อย่าลืมสั่งน้ำมะพร้าวที่พูลบาร์ เพราะเค้าจะประทับตรา เซนต์ รีจิส มาด้วยแหล่ะ แต่ที่นี่เค้ามีน้ำดื่มและครีมกันแดดให้บริการด้วยนะ ดีงาม
ฟิตเนสที่นี่ขนาดค่อนข้างใหญ่ค่ะ ชอบตรงที่มีมุมต่อยมวยจริงจังด้วยแหล่ะ
คลิ๊กที่นี่ เพื่อเช็คโปรโมชั่นและสำรองห้องพักผ่าน >> Agoda.com
คลิ๊กที่นี่ เพื่อเช็คโปรโมชั่นและสำรองห้องพักผ่าน >> Booking.com
All Thai’d Up at Decanter
ห้องอาหาร Decanter นับเป็นไวน์บาร์ของโรงแรม เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ ค่ะ โดยห้องอาหารนี้ ทางโรงแรมเสิร์ฟเป็นอาหารไทย ในโปรโมชั่น ‘All Thai’d Up’ รังสรรค์โดย เชฟแก้ว – เกศินี ดำรงสกุล เชฟอาหารไทยผู้เปี่ยมด้วยประสบการณ์การทำงานในวงการอาหารมาอย่างยาวนาน
ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00 น. – 15.00 น. สำหรับมื้อกลางวัน และ 18.00 น. – 22.30 น. สำหรับมื้อค่ำ
Cupid’s Kiss Afternoon Tea at St. Regis Bar
อย่างที่ทราบกันดีว่า Afternoon Tea ที่โรงแรม The St. Regis Bangkok นั้น เป็นหนึ่งในอาฟเตอร์นูนทีอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ เค้าเปลี่ยนธีมไปทุกๆ เดือน ทำให้เรามาได้เรื่อยๆ ไม่ซ้ำ
นอกจากวิวและบรรยากาศดีๆ คลอดนตรีสด บน St. Regis Bar ชั้น 12 แล้ว อาฟเตอร์นูนทีที่นี่ ยังเสิร์ฟมาในกรงนกแสนอลังการ
ช่วงที่เราไปเป็นเดือนกพ. จึงเป็นธีมวาเลนไทน์ ออกมาเป็นทั้งกุหลาบ หัวใจ ธีมสีชมพูแดง อย่างที่เห็น
Afternoon Tea Set ราคา THB 1600++ ต่อ 2 ท่าน
Sabering Ritual
อีกหนึ่งธรรมเนียมของ The St. Regis ทั่วโลก กับ Sabering Ritual หรือการเปิดแชมเปญจ์ด้วยดาบ ในเวลา 6 โมงเย็น ทุกวันอังคาร พฤหัส และ เสาร์
ซึ่งแขกสามารถร่วมเปิดแชมเปญจ์พร้อมกัน และ รับแชมเปญจ์มาจิบพร้อมวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ ได้เลย
คลิ๊กที่นี่ เพื่อเช็คโปรโมชั่นและสำรองห้องพักผ่าน >> Agoda.com
คลิ๊กที่นี่ เพื่อเช็คโปรโมชั่นและสำรองห้องพักผ่าน >> Booking.com
VIU Restaurant
เราได้มาทานอาหารเย็นที่ห้องอาหาร VIU ค่ะ โดยปกติจะเสิร์ฟเป็น A La Carte และทุกวันพฤหัส ถึง เสาร์ จะเป็น International Buffet ส่วนวันอาทิตย์เป็น Sunday Brunch ค่ะ
โดยช่วงที่เราไปจะเป็น Luxury Market Buffet ซึ่งถือว่าเป็นบุฟเฟ่ต์มื้อเย็นที่วัตถุดิบดีมาก โดยทุกท่านจะได้ล็อบสเตอร์ท่านละ 2 ที่ และมีอาหารมากมายเลยค่ะ ทั้งอาหารทะเล เนื้อ ซูชิ พาสต้า อาหารไทย
ซึ่งสิ่งที่เราชอบมากๆ คือ พวกอาหารจานร้อน เค้าจะไม่ได้ทำทิ้งไว้ แต่ให้เราไปสั่งเป็นจานๆ ได้เลย ทำให้อาหารไม่ชืด พวกล็อบสเตอร์นี่สุกพอดีมาก อร่อยหลายเมนู ของหวานก็จัดเต็มทั้งขนมไทย เค้ก ไอศครีม
สนนราคาอยู่ที่ THB 2,300 ++ รวมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์แล้วค่ะ
คลิ๊กที่นี่ เพื่อเช็คโปรโมชั่นและสำรองห้องพักผ่าน >> Agoda.com
คลิ๊กที่นี่ เพื่อเช็คโปรโมชั่นและสำรองห้องพักผ่าน >> Booking.com
โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ (The St. Regis Bangkok)
ตั้งอยู่บนถนน ราชดำริ ตรงสถานีรถไฟฟ้า ราชดำริ
โทร : +66 2 207 7777 เว็ปไซต์ : https://www.marriott.com/hotels/travel/bkkxr-the-st-regis-bangkok/