[รีวิว] โรงแรม InterContinental Danang Sun Peninsula Resort รีสอร์ทสุดหรูบนชายฝั่งดานัง เวียดนาม

admin November 18, 2024

เวลาเรานึกถึงดานัง เชื่อว่าหลายๆ คน อาจจะนึกถึงบาน่าฮิลส์ หรือ เมืองฮอยอัน แต่จริงๆ ดานังนั้น ยังขึ้นชื่อเรื่องหาดและทะเล ที่นี่มีรีสอร์ทหรู ดีไซน์สวยที่คว้ารางวัลมานับไม่ถ้วน มีวิวอลังการบนอ่าวส่วนตัวใกล้ชิดธรรมชาติ และเป็นที่อยู่ของห้องอาหารมิชลินสตาร์หนึ่งดาวแห่งเดียวในเวียดนามกลาง ยิ่งพอได้มาสัมผัส ยิ่งประทับใจในทุกรายละเอียด ที่นี่คือโรงแรม InterContinental Danang Sun Peninsula Resort ที่เราไม่อยากให้พลาดเลยค่ะ

InterContinental Danang Sun Peninsula Resort

ที่นี่เป็น Beach Resort ที่มีวิวอลังการ ทะเลสวย ใกล้ชิดธรรมชาติ ที่สำคัญ เดินทางง่ายมาก เห็นหาดส่วนตัวแบบนี้ บินมาลงดานังชั่วโมงกว่าๆ และ นั่งรถมาจากสนามบินดานังแค่ 35 นาทีเท่านั้น ไม่ต้องต่อเรือ ต่อให้รวมเวลาบินมาจากไทย ก็ยังถือว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกมากแลกกับวิวและการพักผ่อนแบบนี้

ก้าวเข้ามาในล็อบบี้ ก็เข้าใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงได้รับรางวัลจากหลายสำนักในทุกปี และไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมถึงได้รางวัลเยอะขนาดนี้ตั้งแต่เปิดมา เพราะที่นี่ ดีทั้งโลเคชั่น การออกแบบ เซอร์วิส บริการดีมาก ทำให้การพักผ่อนของเราสมบูรณ์แบบมากๆ

โรงแรม Intercontinental Danang Sun Peninsula Resort นั้น ออกแบบโดย Bill Bensley ซึ่งนัทว่าที่นี่ออกแบบได้สวยลงตัว มีรายละเอียด ทุกจุดมีการผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นกับความโมเดิร์น ห้องอาหารแต่ละห้อง ส่วนกลางแต่ละจุด มีสตอรี่หมดเลย ทำดีมากๆ

จากล็อบบี้ เราก็เดินมาเจอ The Nam Tram หรือรถรางแทรมที่ใช้ขึ้นลง โดยเค้าแบ่งรีสอร์ทเป็น 4 เลเวล ได้แก่ Heaven, Sky, Earth, Sea นัทชอบคอนเซปท์นี้มาก เพราะปกติรีสอร์ทที่มีวิลล่าเป็นหลังๆ แบบนี้ มักจะต้องใช้รถบักกี้ไปไหนมาไหนอย่างเดียว แต่พอมีรถรางก็สามารถไปทุกส่วนของรีสอร์ทได้อย่างง่ายดาย และมีความเบลนด์อินไปกับธรรมชาติมากๆ ค่ะ

Club Terrace Suite Panoramic Oceanview

สำหรับ Room Type ของที่นี่ จะมีตั้งแต่ห้องพักแบบคลาสสิก ไปจนถึงห้องสวีทและวิลล่า โดยความดีงามคือ แม้แต่ห้องพักแบบเริ่มต้นก็มีขนาดกว้างมากถึง 70 ตร.ม.และมีระเบียงอยู่แล้ว ส่วนพูลวิลล่าหลังที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดถึง 500 ตร.ม. กันเลยทีเดียวค่ะ

ในครั้งนี้เราพักในห้องแบบ Club Terrace Suite Panoramic Oceanview ซึ่งเป็นห้อง Terrace Suite พร้อมวิวทะเลแบบพาโนรามาสวยงาม และเป็นรูมไทป์ที่รวมการเข้าใช้ Club InterContinental คลับเลาจ์ของที่นี่ไว้ด้วยค่ะ

ห้อง Terrace Suite นั้น มีขนาดถึง 80 ตร.ม. เป็นระเบียงเข้ามุมที่เห็นวิวได้ทั้งอ่าว ซึ่งเลย์เอาท์ของห้องออกแบบจัดสรรได้ดี มีพื้นที่กว้าง ทั้งโซนเตียงนอน โต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้า เป็นสัดส่วน ห้องน้ำใหญ่และสวยงามมากๆ มีแสงธรรมชาติเข้าทั้งฝั่งห้องนอนและห้องน้ำ ทำให้รู้สึกโปร่ง และรู้สึกว่าเห็นวิวทะเลได้ตลอดเวลาจริงๆ ค่ะ ทั้งหมดยังรู้สึกเป็นส่วนตัวมากอีกด้วย

เตียงนอนหนานุ่ม สัมผัสของผ้านอนสบาย และยังมาพร้อมกับเมนูหมอนหลากหลายแบบให้เราได้เลือก ทีวีจอใหญ่ปลายเตียง พร้อมเครื่องเสียง Bose

อีกอย่างที่ดีแบบตะโกน และทำให้เรารู้สึกว่าที่นี่คุ้มค่ามากๆ คือของใช้ในห้องค่ะ ใช้ของดีมากเลย ตั้งแต่ ดรายเป่าผม Dyson, ชุดสบู่แชมพูของ Diptyque คือพรีเมียมมากๆ ไปจนถึงกาต้มน้ำ Smeg

มินิบาร์ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี เครื่องชงกาแฟ ชุดชา แก้วแบบต่างๆ ตู้แช่ไวน์ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีทั้งชุดคลุมอาบน้ำ รองเท้าสลิปเปอร์ในห้องนอนที่เป็นแบบรองเท้าแตะนุ่มๆ เตารีดโต๊ะรีด กระเป๋าสาน หมวกแบบเวียดนาม รองเท้าแตะสำหรับไปข้างนอก

ห้องอาบน้ำที่นี่สวยมาก กว้าง มีแสงธรรมชาติเข้าถึง อ่างอาบน้ำหินอ่อนขนาดใหญ่ พร้อมเรนชาวเวอร์ที่น้ำแรงอุณหภูมิคงที่ อ่างล้างหน้าแบบคู่ การตกแต่งและสีสันก็ยังเชื่อมโยงกับภาพรวมของห้อง แล้วก็มีห้องสุขาแยกอยู่สะดวกดีค่ะ

ในห้องน้ำนอกจาก ชุดสบู่แชมพูโลชั่นจาก Diptyque แล้ว Amenity อื่นๆ ยังอยู่ในกระเป๋าพกพาที่น่ารักมากๆ อันนี้ประทับใจมากค่ะ เป็น Amenity ที่จริงใจมาก ภายในก็มีครบ ทั้งชุดแปรงสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก สำลี มีดโกน แปรงผม

ระเบียงพื้นที่ใหญ่และมีโต๊ะทานข้าว กับชุดโซฟาที่ไว้มานั่งรับลมได้ชิลล์ๆ ที่สำคัญ คิดว่าเป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทใกล้ธรรมชาติ ที่ Pest Control ได้ดีมากๆ นัทไม่รู้สึกถึงแมลงและไม่เห็นจิ้งจกเลยค่ะ

Breakfast & more… at Citron Restaurant

สำหรับผู้ที่มี Club InterContinental จะสามารถเลือกทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารหลัก หรือ ในคลับเลาจ์ก็ได้นะคะ ซึ่งนัทเลือกมาทานที่ห้องอาหาร Citron ห้องอาหารแบบ All-Day Dining ของทางโรงแรม เพราะนัทอยากมานั่งในที่นั่งริมระเบียง ที่ดีไซน์แบบหมวกเวียดนาม และยังเห็นวิวแบบพาโนรามาอีกด้วยค่ะ

โต๊ะนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหมวกเวียดนาม น่ารักมากๆ บรรยากาศดี วิวดี

มาชมไลน์อาหารเช้ากันค่ะ อาหารเช้าที่นี่มีทั้งอาหารเวียดนาม อาหารเช้าแนวเอเชีย เช่น ข้าวต้ม เกี๊ยวน้ำ กับข้าวต่างๆ อาหารเช้าแนวตะวันตกตั้งแต่สเตชั่นไข่ ที่มี Egg Benedict พร้อมซอสอโวคาโด โคลด์คัทส์ชีส แซลมอนรมควัน เบเกอรี่ สลัดและเครื่องเคียงต่างๆ แต่ว่าไลน์ที่เซอร์ไพรส์จะเป็นอาหารเกาหลีค่ะ ด้วยความที่เราเพิ่งเคยมาดานังเลยเพิ่งรู้ว่านักท่องเที่ยวเกาหลีเยอะมากๆ เลยมีอาหารเกาหลีเป็นอาหารเช้าด้วย

สำหรับเรา ไฮไลท์คืออาหารเวียดนามเนี่ยแหล่ะค่ะ เพราะมีทั้งเฝอ หมูย่างขนมจีนแบบเวียดนาม ปอเปี๊ยะ ขนม ผลไม้ท้องถิ่น มันดีมากค่ะทุกคน ซุ้ม Bahn Mi ที่มีให้เลือกหลายไส้

ตัวห้องอาหารเอง เสิร์ฟอาหารเที่ยงและเย็นด้วย ด้วยเน้นเป็นอาหารเวียดนามที่มาจากทุกภาค ทั้งเวียดนามเหนือ กลาง และ ใต้ ซึ่งทริปนี้นัทตั้งใจมาทานอาหารเวียดนามกลางมากๆ ที่โรงแรมก็มีทั้งอาหารขึ้นชื่อของดานังอย่าง My Quang หรือ ข้าวมันไก่ฮอยอัน

พอมามื้อเที่ยง เค้ามีเซ็ทเมนู ซึ่งในเมนูมีล็อบสเตอร์จาก Na Trang ด้วย เสิร์ฟมาทั้งตัวเลยค่ะ เซ็ทนี้ราคาดีเลย มีทั้งของทานเล่น ซุป เมนดิชและของหวาน โดยอีกอย่างที่ประทับใจคือ ข้าวสวย ค่ะ นัทได้ยินมานานว่า เวียดนามดังเรื่องข้าวมากๆ และที่โรงแรมใช้เป็น ข้าว ST25 ที่ได้รับรางวัลมามากมาย และมันอร่อยจริงๆ ค่ะทุกคน มีความหนุบให้เคี้ยวแต่ก็นุ่มและหอม ต้องไปลองทานกันค่ะ

Swimming Pools & Beach

หากมาพักผ่อนที่นี่ก็ไม่ต้องออกไปไหนเลยค่ะ มีอะไรทำตลอดวัน โดยสระว่ายน้ำส่วนกลางของที่นี่จะมี 2 สระ สระแรกชื่อว่า L_o_n_g Pool เป็นสระว่ายน้ำยาว บรรยากาศผ่อนคลาย จากมุมนี้เราจะเห็นทั้งตัวรีสอร์ทที่ลดไหล่อยู่บนเนินเขา และยังเห็นวิวทะเล ช่วงพระอาทิตย์ตกก็สวยค่ะ

ด้านล่างของสระว่ายน้ำหลักเป็นที่อยู่ของ L_o_n_g Bar บาร์ยาว 50 เมตร เป็นบาร์ที่ยาวมากๆ สมชื่อเลยค่ะ และเป็นที่อยู่ของอีกหนึ่งมุมฮิตภายในรีสอร์ท เพราะว่ามันนั่งๆ นอนๆ สบายมากเลยค่ะ

ส่วนอีกสระนึงจะเป็น Family Pool อยู่ติดหาดเลยค่ะ เป็นสระโค้งๆ ล้อไปกับต้นมะพร้าว มีอ่าง Jacuzzi แยกอยู่ด้วย

ส่วนบนชายหาดเอง ก็มีเตียงอาบแดดทั้งแบบเดี่ยวๆ และ แบบโซฟาซึ่งนอนกลิ้งได้สบายมากค่ะ ทุกครั้งที่มาถึง ทางพนักงานจะนำน้ำดื่ม และ ผ้าเช็ดตัวมาให้ แถมยังมีครีมกันแดดและอาฟเตอร์ซันที่เราสามารถใช้ได้ด้วยนะคะ มาตัวปลิวได้เลย

นั่งเล่นไปแป้ปนึง มีเซอร์ไพรส์ด้วย ทางพนักงานหาบตะกร้ามา ด้านในเป็นผลไม้เสียบไม้ สดชื่นสุดๆ เลยค่ะ

ใครมาถึงเวียดนามกลางแล้วอยากนั่งเรือตะกร้า ที่นี่ก็มีนะคะ เป็นส่วนตัวเลย ภายออกไปชมวิวจากอ่าว มองกลับเข้ามาในรีสอร์ทก็สวยงาม เรือตะกร้านี่มันเจ๋งมาก ทั้งวิธีการพาย และ ต้นกำเนิด (เนื่องจากฝรั่งเศสที่เข้ามาล่าอาณานิคมต้องการจะเก็บภาษีเรือที่ชาวบ้านไม่สามารถจ่ายไหว ชาวบ้านเลยทำตะกร้ายักษ์มาใช้แทนเรือค่ะ) ตรงนี้ ไม่มีค่าบริการแต่ควรจองล่วงหน้าไว้นะคะ

ภายในรีสอร์ทจะมีตารางกิจกรรม ซึ่งมีทั้งโยคะ คลาสออกกำลังกายต่างๆ ส่วนกิจกรรมชายหาดก็จะมีทั้ง คายัค บีชวอลเลย์บอลล์ ตกปลา เปตอง ฯลฯ มีห้องฟิตเนสเปิด 24 ชั่วโมง

La Maison 1888

และนี่คือร้านที่ทำให้เราเดินมาดานังในครั้งนี้ ห้องอาหารที่รับมิชลินสตาร์แห่งแรกและแห่งเดียวในเวียดนามกลาง

ที่นี่หนึ่งในร้านที่เราอยากไปทานมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นห้องอาหารที่ดูแลโดยเชฟ Christian Le Squer ที่ได้รับรางวัลมิชลิน 3 ดาวจากร้านที่เราชอบที่ปารีส และตัวร้านเองก็ได้รับรางวัลมิชลิน 1 ดาว พร้อมโลเคชั่นที่สวยงามมากๆ

นัทเขียนรีวิวฉบับเต็มไว้ ไปอ่านกันได้เลยนะคะ Click Here

Barefoot Restaurant

อีกหนึ่งห้องอาหารของรีสอร์ท ที่เป็นห้องอาหารริมทะเล นัทชอบที่มีดีไซน์บางส่วนของห้องอาหารเป็นพื้นทรายด้วย โดยปกติที่นี่จะเสิร์ฟอาหารแนวบีชบาร์บีคิว พวกสเต็ก อาหารทะเลย่าง และมีไฮไลท์เป็นบุฟเฟต์ทุกคืนวันเสาร์

ร้านน่านั่งมากๆ จริงๆ ใครมาดานัง ก็แวะมาทานได้นะคะ

แต่ช่วงที่นัทไป ทางร้านมีอีเวนท์เป็น Wine Dinner เลยได้ลองทานเป็นคอร์สเมนูซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอีเวนท์ค่ะ

Club InterContinental

อย่างที่บอกไปว่า นัทจองห้องแบบที่รวม Club benefits ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ที่เราสามารถเช็คอินได้ที่เลาจ์อย่างเป็นส่วนตัว ที่คลับเลาจ์นี้ ตกแต่งสวย และวิวสวยมากกกกก มีของว่าง คานาเป้ และ เครื่องดื่มเสิร์ฟตลอดวัน

ทางคลับเลาจ์เองเสิร์ฟอาหารเช้า หลังจากนั้นก็จะมี complimentary อาฟเตอร์นูนที และ ค็อกเทลในช่วงเย็น

ซึ่งคานาเป้ที่เสิร์ฟตอนช่วงเย็นนี่ต้องขอชมเลยค่ะ นอกจากพวกโคลด์คัทส์ ชีส ขนมปัง ของหวาน ผลไม้แล้ว ยังมีอาหารร้อน และเสิร์ฟฟัวกราส์กับเป๋าฮื้อ อีกด้วย

Surrounding

นอกจากห้องอาหารบนชั้น Heaven, Sky และ Sea รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ของโรงแรมแล้ว ที่ชั้น Earth ยังเป็นที่อยู่ของอาร์ตแกลเลอรี่ ซึ่งเป็นแกลเลอรี่ของ Bill Bensley แห่งแรกในเวียดนาม ซึ่งรายได้จะนำไปสมทบทุนบริจาคมูลนิธิด้วยค่ะ

หนึ่งในสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เกี่ยวกับรีสอร์ทแห่งนี้ คือความใกล้ชิดธรรมชาติ ที่นี่คือเต็มไปด้วยแมกไม้กว่าพันชนิด และยังเป็นที่อยู่ของนก ผีเสื้อ มากมาย เรายังมีโอกาสได้เห็นค่างห้าสีตามธรรมชาติอีกด้วยนะคะ