[รีวิว] The GOAT Greatest of All Time ไฟน์ไดนิ่งเอเชียนแหวกแนวสุดสร้างสรรค์ในซอยเอกมัย

ซ่อนตัวอยู่ภายในซอยเล็กๆ ย่านเอกมัย ร้าน The G.O.A.T. Greatest Of All Time หรือ ที่หลายๆ คนเรียกว่า The GOAT นั้น เป็นร้านที่จะพาคุณไปพบกับประสบการณ์แสนสนุกตลอดการรับประทาน เต็มไปด้วยไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ การแพร์ริ่งรสชาติที่แปลกใหม่ และ เราสามารถเชื่อมโยงกับเรื่องราวแรงบันดาลใจเหล่านั้นได้

อาหาร 14 คอร์สโดยเชฟแทน – ภากร โกสิยพงษ์ถูกนิยามว่าเป็น Off-Beat Asian Cuisine ซึ่งมีอิทธิพลไทย-จีนอยู่ค่อนข้างชัด ประกอบกับเทคนิคการทำอาหารและคอมบิเนชั่นของการเลือกวัตถุดิบท้องถิ่นที่น่าสนใจ เลยกลายเป็นคอร์สที่ถือว่าพิเศษมากเลยทีเดียวค่ะ

อย่างธีมของเมนูที่เสิร์ฟตอนนี้ เป็นธีม “งานวัด” ที่ได้หยิบความทรงจำที่พวกเราหลายๆ คนน่าจะมีร่วมกันในวัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นหอมๆ ของซุ้มปลาหมึกย่าง เกมส์ตักปลาทอง การสอยดาว สาวน้อยตกน้ำ ซุ้มยาดอง 

เพียงเข้ามานั่งที่โต๊ะ ก็เห็นแววความสนุกแล้ว กับเกมส์บิงโก ให้เราได้สแตมป์เมนูที่เราทานไปค่ะ

ก้าวเข้าสู่บริเวณร้าน The GOAT เราจะเจอกับคอร์ทยาร์ดสีน้ำเงิน ที่แสนร่มรื่น และมาเริ่มกันที่คอร์สแรก กับ ซุ้มยาดอง

First thing first : ยาดองต้มยำเป็นช้อต ใส่กับน้ำมะเขือเทศที่นำมาทำจนใสอัดแก๊สใส่ แล้วป๊อก 1 ทีก่อนเสิร์ฟ รสชาตินวลมากๆ เสิร์ฟคู่กับ แตงโมที่นำไปคอมเพรส แล้วโรยด้วยผงข่ากับคาเวียร์จากหัวหิน เป็นการเปิดคอร์ส

จานที่ 2 – 4 ได้แก่

Those look delicious : จานนี้ได้แรงบันดาลใจ จากขนมเบื้องทั้งไส้หวานไส้เค็ม แต่เสิร์ฟมาในรูปแบบโคนขนมเบื้อง สลัดปูม้าจากสุราษฎร์ธานี ครีมชีส สาหร่ายดอง ใบชิโสะ ยอดมะพร้าวอ่อนดอง มีความหวานเปรี้ยวนิดๆ โปะหน้าให้เราชิมสองแบบ คือ อิกุระ กับ อูหนิ ซึ่งเราชอบคำที่เป็นอูหนิมากๆ

Extra Chilies Salt : ขอพริกเกลือเพิ่มหน่อย! จานนี้ ดีเลยค่ะ เป็น กะท้อนปุยฝ้ายจากจันทบุรีแช่มะขามเปียก และ น้ำปลาหวาน เลเยอร์กับปลาเก๋าดำ เนื้อหวานเด้ง ที่น้ำไปแช่ดอกเกลือแป้ปๆ แล้วล้างออก หยอดด้วยน้ำมันผักชี เสิร์ฟกับผักแซบจากปัตตานี ที่รสชาติแซบจริง ข้างๆ เป็น มะตูมแขกกับน้ำปลาหวาน จานนี้โดยรวมค่อนข้างไลท์ มีความหวานเปรี้ยว ที่ไม่กลบปลาเลย มะตูมแขกน่าสนใจมากๆ โดยรวมดีค่ะ

หอยทอด : ปลาเก๋าแดงกงฟี กับ ไข่ปลาหมึก มีครีมออทเล็ทอีมัลชั่น ขั้นอยู่ โรยด้วยไข่เจียวปูกรอบ พร้อมซอสพริกที่ทำเลียนแบบศรีราชา กับ มาโยต้นหอม อีมัลชั่นเข้มข้น แต่เสียดายที่ซีซั่นนี้ หอยนางรมไม่มี เลยใช้ปลาเก๋าแดงแทน คิดว่าถ้าเป็นหอยนางรม น่าจะดีมากๆ เลยค่ะ

Nam Krok : มาจาก น้ำพริก และ ขนมครก — ฝั่งในถ้วยเป็น น้ำพริก หลน เสิร์ฟแบบคัสตาร์ด ซึ่งไอเดียดีมาก เพราะมีความเนียนกลมกล่อม เข้ากับความเป็นหลน มีปลาแห้ง กุ้งแชบ๊วยขาแดง ท็อปด้วยแตงกวาญี่ปุ่น ขมิ้นขาว ใบผีเสื้อราตรี ส่วนแป้ง แทนครัสท์กรอบๆ ของขนมครกค่ะ ทุกอย่างเสริมกันดี

ถัดมาชื่อว่า Perfect Combination : เป็นแพร์ริ่งที่ไม่น่ามีใครเคยทำ ด้านล่างเป็น กุยช่ายทอด หอยเชลล์ พริกดอง ไข่แดง ที่เห็ฯขาวๆ เป็นโฟมเห็ดชิตาเกะ โรยด้วยผงชะครามให้ความเค็ม ซึ่งต้องบอกว่าเข้ากันจริงๆ ได้ความเค็ม มัน กรอบ มีเทกเจอร์เด้งๆ จากหอย ตัวโฟมรสไม่ได้จัด ทำให้ผสานทุกอย่างให้เข้ากันได้

Smokey Queue : ไปต่อคิวร้านปลาหมึกย่างกันค่ะ จานนี้ มี เบบี้สควิดจากเกาะสีชัง ที่มาพร้อมน้ำหมึก นำไปรมควันกับถ่านไม้ สะดุ้งน้ำมันร้อนๆ ปลาหมึกยัดไส้ celery ดอง เคลือบซอสไข่เค็ม เลือกที่จะโรยผักแว่นที่มีความอุมาหมิคล้ายสาหร่าย และ ใบเมเปิ้ลที่มีความคล้ายกระเจี้ยบ

Have Here or Take Away : มาถึงบรรดาร้านก๋วยเตี๋ยวกันบ้าง จานนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากก๋วยเตี๋ยวเป็ด ซึ่งทำออกมาได้ดีมากๆ ตัวพาสต้าเป็น Tortellini Duck Confit ซอสเป็นซอสพะโล้ กับ น้ำมันเบซิล ที่หอมดีมากๆ มีการนำอกเป็ดมาทำเป็น Cure meat หมักกับมะแขว่น ใต้หัวไชเท้าดองคือทีเด็ด เป็น อีมัลชั่นเลือดเป็ด ทั้งจานเข้ากันอย่างสมูท และ เทกเจอร์แต่ละส่วน แยกกันก็ดี รวมกันก็ดีค่ะ

Catch me if you can : จานนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเกมส์ช้อนปลาทอง ที่ต้องมีกระดาษสีขาวๆ ไปช้อน
สีขาวเป็นแป้งก๋วยเตี๋ยวหลอดฮ่องกง ด้านใต้เป็นกุ้งย่างรมควัน มีซอสมันกุ้ง หอมแดงดอง ด้านบนเป็นดอกหางนกยูง ที่อย่างให้นึกถึงปลาหางนกยูง และ ดอกยี่เค็งที่บานในฤดูฝน ฤดูที่ดอกไม้ส่วนใหญ่ไม่บาน ส่วนซอส ทำมาจากพริกหยวกและหอมหัวใหญ่เท่านั้น

This might be great for breakfast : พอเราใกล้จะกลับจากงาน ก็อาจจะอยากหาของกินไว้สำหรับเช้าวันรุ่งขึ้น จานนี้เลยเสิร์ฟเป็นลูกครึ่งของข้าวต้มกับโจ๊ก แต่ความพีคคือ ในจานนี้ไม่ได้ใช้ข้าวเลยค่ะ เทกเจอร์ต่างๆ มาจากเนื้อปลาสำลี ซุปเข้มข้นจากกระดูกปลา ในซุปมีเนื้อปูม้า หอยเชลล์อบแห้ง มีความเนียนและกลมกล่อมมากๆ เป็น คอมฟอร์ตฟู้ดสุดๆ

สาวน้อยตกน้ำ : คนยุคเราน่าจะยังเคยเห็นเกมนี้กันอยู่ ด้านล่างเป็นกรานิต้าลิ้นจี่จากจันทบุรี พร้อม compote เม็ดกระท้อนเชื่อม (จานที่ 3 เสิร์ฟกระท้อนไปแล้ว จึงนำเม็ดมาใช้ในจานนี้ ซึ่งเป็นการใช้ที่ดีมาก เพราะไม่ฝาดหรือขม มีความพอดีๆ) ส่วนสาวน้อยนั้น ด้านในเป็นน้ำผึ้งป่าโยเกิร์ต ทานรวมกันแล้วพอดีมากๆ ชอบกลิ่นกระท้อนในจานนี้ค่ะ

We’re getting older : จานนี้ พูดถึงของที่ตอนเด็กๆ เราอาจจะรู้สึกไม่ชอบ แต่มาอร่อยตอนโตขึ้น ในจานเป็น โฟมเต้าหู้ น้ำเชื่อมขิง ซอฟท์เสิร์ฟป๊อปคอร์น ไข่นกกระทามันม่วง (อร่อยมากกกก) ด้านล่างเป็นถั่วบด มีความเค็มมันเข้ากันขององค์ประกอบในจาน ไอศครีมมีความ Frizzy นิดๆ เนื้อเนียน

เข้าสู่ 2 คอร์สสุดท้าย เชฟจะให้เหรียญมาค่ะ เพื่อที่เราจะเอาไปหยอดตู้กาชาปอง เป็นเหมือนเกมส์สอยดาว

คอร์สสุดท้าย เราจะต้องสอยดาว โดยเปิดออกมาจะเป็นอย่างใดอย่างหนึ่ง

มีทั้ง ไอศครีมนมข้าวโพดเนื้อเนียน ข้าวต้มน้ำวุ้นหอมหวาน และ ช๊อคโกแลตพีนัทบัตเตอร์ค่ะ สนุกมากๆ

Farm Suk : คอร์สที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน เพื่อที่จะให้เราได้ชิมชาจากสมุนไพรในสวนของเชฟซึ่งจะเปลี่ยนไปทุกๆ ซีซั่น

ครั้งนี้เป็นใบโปร่งฟ้าและไวท์ลาเวนเดอร์ ที่มีกลิ่นหอมสดชื่นมากๆ ค่ะ


The G.O.A.T. Greatest Of All Time

ตั้งอยู่ในซอยเอกมัย 10 แยก 2 มีที่จอดรถ

ราคาท่านละ 3,900 บาท++

สำรองที่นั่ง line : @thegoat
โทร. : 095 420 0706
เฟสบุ๊ค : https://www.facebook.com/greatestofalltimebkk

error: