[รีวิว] Sushi Masato โอมากาเสะจองยาก รีวิวอัพเดทหลังได้ดาวมิชลิน

admin February 4, 2022

หากพูดถึงร้านซูชิโอมากาเสะในกรุงเทพ ที่โด่งดังและจองยากมากๆ มาอย่างยาวนานต้องยกให้ Sushi Masato (ซูชิ มาซาโตะ) เลยค่ะ ร้านซูชิโอมากาเสะ โดยเชฟ Masato Shimizu ที่เคยได้รับ 1 ดาวมิชลินที่นิวยอร์ก ก่อนจะย้ายมาลงหลักปักฐานอยู่เมืองไทย ซึ่งตอนที่เราเคยลงรีวิวครั้งที่แล้วนั้น ทางเชฟยังไม่ได้ดาวมิชลินของไทยค่ะ จนมาถึง มิชลินไกด์ประจำปี 2021 ร้านซูชิมาซาโตะ ก็ได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลินเป็นที่เรียบร้อยค่ะ

แต่ไม่ว่าจะมีมิชลินสตาร์หรือไม่มี ร้านนี้ก็เป็นที่รักของฟู้ดดี้ชาวกรุงเทพฯ เสมอมา ผ่านมาหลายปีก็ยังคงจองยากเหมือนเดิมเลยค่ะ

สำหรับรีวิวอัพเดทอันนี้ ต้องบอกว่า หลังจากที่เขียนรีวิวไว้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว มาถึงตอนนี้ ก็ต้องบอกว่า ทางร้านคงมาตรฐานเหมือนเดิม ราคาไม่พุ่งกระโดดเหมือนหลายๆ ร้าน ตอนเราไปนั่งก็ยังมีของสดส่งเข้ามาในร้านสำหรับวันถัดไปอยู่ตลอด ต้องบอกว่าหลายคำถูกปรับให้มีความถูกปากคนไทยมากขึ้น เชฟยังน่ารักเหมือนเดิม นอกจากนี้ เราคิดว่าร้านมีระบบการจองที่ง่ายขึ้นแล้วนะคะ แล้วก็เปิดชั้นบน โดยจะมีเชฟญี่ปุ่นอีกท่านปั้นค่ะ

วิธีการจอง Sushi Masato สามารถจองได้บนเว็ป https://www.tablecheck.com/en/shops/sushi-masato/reserve โดยจะเปิดจองทุกๆ วันที่ 15 ของเดือนก่อนหน้าค่ะ เช่น คิวเดือนกุมภา จะเปิดให้จอง 00:01 น. ของวันที่ 15 เดือนมกรา จะมีให้เลือกชั้น 1 กับ ชั้น 3 นะคะ ชั้น 1 จะเป็นเชฟมาซาโตะดูแลเอง ส่วนชั้นบนจะเป็นเชฟ Satohiro Kurokawa เมนูอาหารจะเหมือนกันทุกอย่างค่ะ

Sushi Masato มีให้เลือก 2 คอร์สนะคะ คอร์สธรรมดา สนนราคา ท่านละ 4,000 บาท และ คอร์สพรีเมียม ท่านละ 6,000 บาทค่ะ เปิด 3 รอบคือ 12.00 น., 17.00น. และ 19.30 น. ร้านหยุดทุกวันจันทร์ค่ะ

มาชมของที่เชฟเตรียมไว้กันค่ะ แต่ละอย่างดูสดและน่าทานมากๆ ทั้ง

เริ่มต้นมื้ออาหารด้วย Sashimi สองชนิดที่เป็นของโปรดของเราคือ Ensui Uni และ Akagai

Ensui Uni คือไข่หอยเม่นที่แช่มาในน้ำทะเลนั้นหวานมากๆ ส่วนตัว Akagai หรือหอยแครงญี่ปุ่นนั้น กรอบหวานสุดๆ เนื้อยังขยับได้อยู่เลยตอนที่เชฟตบ

ต่อด้วย Otsumami อีก 4 อย่างได้แก่

Sakura Tako หรือหนวดปลาหมึกยักษ์ที่นำมานวดและต้มกับโชยุและมิรินจนอ่อนนุ่ม ทานคู่กับดอกเกลือ เสริมความเค็มและชูความหวานของวัตถุดิบได้เป็นอย่างดี

Kaki หรือหอยนางรม จาก ฮอกไกโด ราดด้วยซอสพอนซึ ตัวหอยนั้นหวานมัน สดมากๆ

Wakasagi หรือ Smelt Fish เป็นปลาน้ำจืดที่หาได้จากแม่น้ำทางฮอกไกโด นำมาทอดเมปุระและโรยด้วยคาราสุมิขูดฝอยเพิ่มความเค็มแทนเกลือและเสริมความอูมามิไปอีกขั้น

Yari ika หรือหมึกกล้วย ยัดไส้ Ankimo หรือตับปลาอังโกะ หวานกลมกล่อม รสสัมผัสของตับนั้นไม่ขลัก เนียนและเข้มข้นมาก ส่วนปลาหมึกก็นุ่มเด้ง ดีมากๆ

สิ่งหนึ่งที่เราชอบมากๆในการมาทานที่ร้าน Sushi Masato คือเชฟมาซาโตะนั้นจะชอบชวนคุยและเอาหนังสือปลามาเปิดให้ดูอยู่ตลอดว่า ปลาที่เราทานไปนั้นคืออะไร

ล้างปากกันด้วยลูกพลับญี่ปุ่น เสิร์ฟมาในน้ำแอปเปิ้ลแช่ด้วยดอกลาเวนเดอร์ หอมหวานล้างปากได้ดีมากเลยค่ะ

มาถึงคอร์สซูชิกันแล้ว ต้องขอบอกว่าข้าวซูชิของ Sushi Masato นั้นมีรสชาติเข้มและเปรี้ยวประมาณนึงเลย ถ้าเป็นคนที่ไม่ชอบข้าวเปรี้ยวก็อาจจะไม่ถูกใจนัก แต่ถ้าชอบข้าวเปรี้ยวมากๆสไตล์ เอโดะ ก็อาจจะรู้สึกว่าจืดไปสักนิด

ตัวซูชิเริ่มต้นคำแรกด้วย Sumiika หรือ หมึกหอม ที่หวาน ครีมมี่ สุดๆ

ปลาหน้าวัว Kawahaki และ ซอสตับของตัวมันเอง คำนี้อร่อยมาก เพราะปลามีความหนึบ เสริมด้วยตับที่ให้ความอุมามิ

ปลาซันมะ Sanma โปะด้วยต้นหอมและขิง เป็นเทกเจอร์เนื้อมัน นุ่มลื่น เข้มข้น

ปลาทูน่าเนื้อแดง Tennen Hon Maguro Akami จาก Miyagi ที่บ่มนานถึง 1 สัปดาห์ คำนี้ไม่ว้าวเท่าที่คิด เพราะรู้สึกเนื้อจืดไปสักหน่อย

ต่อด้วย ทูน่าส่วนท้อง หรือ Otoro ที่มัน อร่อยตามมาตรฐาน

หอยเชลล์ Hotate สดๆจากเปลือก นำมาเสียบไม้ย่าง

Sawara Warayaki ปลาอินทรีย์นำไปย่างฟาง หอมและเนื้อดีมากๆ

Kuruma Ebi ไซส์ใหญ่พอสมควร หวานเด้ง ดีงามตามท้องเรื่อง

Uni สองชนิดทั้ง Bafun และ Murasaki นำมาให้ชิมเทียบกัน รอบนี้ Bafun ชนะอยู่ทั้งกลิ่นและความหวาน

Anago หรือปลาไหลทะเล ต้มมาได้อ่อนนุ่ม ละลายในปาก

ไข่หวาน หรือ Tamagoyaki สูตรร้าน Sushi Masato ทำมาจากเนื้อกุ้งขาวและไข่ อูมามิ ฟูและเด้งมากๆ

เรายังไม่ค่อยอิ่มเลยของเพิ่มเมนูพิเศษ Manao don ที่ตั้งชื่อตามลูกสาวของเชฟ แบบจานใหญ่ที่ใส่ของโปรดของเราทั้ง 4 อย่างมาในชามเดียวได้แก่ Uni , Ankimo , Negitoro , Ikura มาอย่างเต็มเปี่ยม