[รีวิว] Emilia Ristorante Italiano ร้านอาหารอิตาเลียนใจกลางเมือง แบบต้นตำรับจากแคว้น Emilia-Romagna

admin August 26, 2021

บนชั้น 1 อาคารเกษร ทาวเวอร์ (Gaysorn Tower) ใจกลางกรุง เป็นที่ตั้งของร้าน Emilia Ristorante Italiano หรือ “Emilia” ร้านอาหารอิตาเลียนที่เสิร์ฟอาหารแบบฉบับท้องถิ่นแท้โดยเชฟชาวอิตาเลียนที่มีบ้านเกิดมาจากแคว้น Emilia-Romagna แคว้นที่โด่งดังเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของอาหารเพราะแหล่งผลิต แฮม, ชีส และบัลซามิกชื่อดังระดับประเทศ และยังเต็มไปด้วยพาสต้าเส้นสดหลากหลายชนิด

ร้าน Emilia นั้น ถูกดัดแปลงมาจากร้านชื่อดังอย่าง Britannica Brasserie ซึ่งให้บรรยากาศหรูหรา โมเดิร์น แสงไฟสลัวพร้อมวิวเมือง ทำให้รู้สึกเหมือนไม่ได้นั่งอยู่ในอาคารหรือศูนย์การค้าเลย อีกทั้งตัวเชฟ Fabrizio Croceta ยังเคยเป็นเชฟอยู่ในร้านอาหารอิตาเลียนระดับ Michelin Star ในญี่ปุ่นมาก่อน ทำให้ Emilia ถือเป็นร้านอาหารที่มีเอกลักษณ์บนราคาที่จับต้องได้

เริ่มต้นมื้ออาหารด้วย ขนมปัง Foccacia สูตรพิเศษที่ใส่ Pesto ลงไป ทำให้มีกลิ่นหอมรัญจวน เนื้อสัมผัสของขนมปังชิ้นใหญ่หนานุ่ม complimentary มาในทุกโต๊ะ ทานคู่กับ Olive Oil และ Balsamic ที่เลือกสรรมาเป็นอย่างดี

สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า Emilia นั้นใส่ใจกับวัตถุดิบและเครื่องปรุงของร้านมาก ๆ จะเห็นได้จากการใช้ Olive Oil ชั้นดี อย่าง Lorenzo No.5 ซึ่งเป็น Olive Oil ที่ใช้มะกอกพันธุ์ดีอย่าง Nocellara del Belice มา Cold Extract ด้วยความพิถีพิถัน ทำให้ได้ซึ่งน้ำมันมะกอกที่หอม เข้มข้น แต่ไม่มันติดปากต่างจากน้ำมันมะกอกทั่วไปมาก

หรืออย่าง Balsamic ทางร้านก็เจาะจงใช้ Balsamic แท้ ทำจากองุ่นพันธุ์เดี่ยวอย่าง Allambrusco มีความหวานเปรี้ยว ซับซ้อน พอเหมาะพอดี

เราสั่ง Starter จานแรกไปเป็น Frittura di Sardine (ราคา 220 บาท) หรือปลาซาร์ดีนทอด จิ้มกับซอสทาทาร์ โดยทางร้านทอดออกมาได้กรอบฟู ไม่อมน้ำมัน บีบเลม่อน จิ้มกับซอส อร่อยดีตามท้องเรื่อง ขนาดปกติเราไม่ใช่แฟนปลาซาร์ดีน ยังซัดจานนี้เรียบ

ถัดมาเป็น Burrata con Pomodorini (260 Baht) ซึ่งเราเลิฟมาก ชีสบูราต้านั้นเข้มข้น ราดด้วยน้ำมันมะกอกและบาลซามิกชั้นเยี่ยม แต่ที่เราเซอไพรส์ที่สุดคือมะเขือเทศ นั้นหวานมากๆๆ และที่สำคัญคือ ปลอกเปลือกมาแล้ว !! ทุกครั้งที่ทานอาหารจานนี้แล้วมะเขือเทศมันไม่ถูกปลอกเปลือก เราคงคิดถึงร้านนี้ มันดีขนาดนั้นแหละ

ตามมาด้วย Appetizer จานร้อน Brodetto di Pesce (480 Baht) หรือของทะเลนำไปตุ๋นในซุปมะเขือเทศ เสิร์ฟพร้อมขนมปัง Sourdough ปิ้ง ตัวซุปนั้นอร่อย กลมกล่อม เข้มข้นด้วยมะเขือเทศแท้ๆที่ปั่นกันสดๆ ไม่ได้ใช้มะเขือเทศกระป๋อง

ขั้นรายการด้วย Cold Cut & Cheese ซึ่งใช้ของคุณภาพดีทีเดียว โดยสามารถเลือกปริมาณและชนิดที่ต้องการได้ เริ่มต้นที่ 90 บาท / 30 กรัมเท่านั้น

เรียกน้ำย่อยกันแล้ว มาถึงส่วนของพาสต้ากันบ้าง เราสั่งมาลองทานสองอย่างด้วยกัน

เริ่มต้นด้วย Capelli d’Angelo Aglio, Olio e Peperoncino (480 Baht) หรือแปลง่ายๆว่า เส้น Cappellini ซึ่งเป็นเส้นพาสต้าคล้ายสปาเกตตี้ แต่ขนาดเล็กกว่า นำไปผัดในซอส AOP ท้อปด้วยเนื้อปูม้า และ Bottarga หรือไข่ปลา Mullet ตากแห้ง

ตามมาด้วย Strozzapreti alla Bolognese (360 Baht) ซึ่งเส้น Strozzapreti นั้นเป็นเส้นพาสต้าจากเมือง Emilia-Romagna บ้านเกิดของเชฟนั่นเอง นำมาผัดกับซอส Bolognese รสชาติเข้มข้น โรยด้วยชีสพาร์เมซานชั้นดี

เข้าสู่ Main Course เราทานจานเนื้อ Tagliata di Manzo All’ Aceto Balsamico (1,200 Baht)

โดยที่ร้านเลือกใช้เนื้อ Australia ส่วน Striploin จากฟาร์ม Ranger Valley ที่โด่งดัง ย่างให้สุกตามต้องการ ราดด้วยซอสที่ทำมาจาก jus ของเนื้อ ผสมกับ Balsamic ชั้นดีของทางร้าน ตัวเนื้อนั้นมีกลิ่นหอม นุ่ม ไม่เหนียวเลย ซอสก็เข้มข้นมี Acidity ที่ช่วยตัดเลี่ยนรสเนื้อได้เป็นอย่างดี

ทานคู่กับ Pomodori Gratinati (140 Baht) หรือมะเขือเทศกราแตง ที่ทำออกมาได้ดีทีเดียว

ปิดท้ายด้วยของหวานสองอย่างด้วยกันคือ

Gelato al Tiramisu (200 Baht) ที่มาในรูปแบบ Roll Ice Cream Cake รสชาติของ Tiramisu ครบถ้วน

Budino al Caramello (200 Baht) หรือคาราเมลพุดดิ้ง โปะด้วยครีมโฟมที่ทำจากถั่วเฮเซลนัท ถ้วยนี้ทำออกมาได้ดีมากๆ ตัวคัสตาร์ดพุดดิ้งนั้นมีเนื้อสัมผัสที่เนียนนุ่ม หอมกลิ่นวานิลลา ซอสคาราเมลก็หวานหอม ติดขมนิดๆตัดเลี่ยนความหวานได้อย่างลงตัว และครีมถั่วฮาเซลนัท ก็เสริมรสสัมผัสและความหอมซับซ้อนเพิ่มเข้าไปอีกขั้น

โดยสรุปแล้ว Emilia Ristorante Italiano นั้นเป็นร้านอาหารอิตาเลียนแบบ Casual Dining ชั้นดี มีความพิถีพิถันในการปรุง และใช้วัตถุดิบเครื่องปรุงรสคุณภาพสูงกว่าเมื่อเทียบกับระดับราคา มีเมนูอาหารท้องถิ่นบางรายการที่หาทานที่อื่นไม่ได้ และยังตั้งอยู่ในศูนย์การค้าใจกลางเมือง ที่มีความสะดวก ไม่ต้องห่วงเรื่องที่จอดรถอีกด้วย